|
ประวัติโดยสังเขป
|
วัน/เดือน/ปีเกิด
|
เกิดในเดือน ตุลาคม ค.ศ. 1878
ที่แขวงลัวร์ สังฆมณฑลลีออง เมื่ออยู่บ้านเณรเล็ก คุณพ่อเรียนเก่งมาก
|
เข้าศึกษาต่อ
|
ในบ้านเณรใหญ่ของสังฆมณฑลลีออง
เป็นเวลา 2 ปี
|
รับราชการ
|
ทหารเป็นเวลา 1 ปี
|
|
|
ปี ค.ศ. 1901
|
คุณพ่อเข้าศึกษาในสามเณราลัยใหญ่ ของคณะมิสซังต่างประเทศที่เมืองเบียเรอ
|
|
ศึกษาในสามเณราลัยของคณะนี้เป็นเวลา 1 ปี แล้วเรียนเพิ่มเติมอีก 2 ปี ที่กรุงปารีส
|
ปี ค.ศ. 1904
|
คุณพ่อได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ ผู้ใหญ่กำหนดให้คุณพ่อไปทำงานแพร่ธรรมในมิสซังลาว
ถึงมิสซังแล้ว ได้รับหน้าที่ให้ไปอยู่ที่โคราช
ในฐานะพ่อปลัดของคุณพ่อแอกส์กอฟอง โคราชเป็นเมืองใหญ่
เป็นชุมทางระหว่างกรุงเทพฯ กับจังหวัดอุบลราชธานีและอุดรธาน
|
ปี ค.ศ. 1910
|
คุณพ่อแปรูดง
ย้ายมาทำงานในสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ภายใต้การปกครองของพระสังฆราชแปร์รอส
ผู้ปกครองสังฆมณฑล สยามได้1 ปีแล้ว
คุณพ่อได้รับแต่งตั้งเป็นอาจารย์บ้านเณรเล็กบางช้าง
|
ปี ค.ศ. 1911
|
คุณพ่อการต็อง ซึ่งขณะนั้น
ปกครองวัดนักบุญอันนา ปากน้ำโพ
ได้รับแต่งตั้งเป็นเหรัญญิกของมิสซัง พระสังฆราชแปร์รอส
จึงแต่งตั้งคุณพ่อแปรูดง ให้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดปากน้ำโพ แทนคุณพ่อการต็อง
วัดนี้มีคริสตังไม่นานนัก
|
ปี ค.ศ. 1914
|
สงครามโลกก็เกิดขึ้นในยุโรป พระสังฆราชแปร์รอส
และมิสชันนารีอีกหลายองค์ ซึ่งในจำนวนนี้มี คุณพ่อแปรูดง รวมอยู่ด้วย
ถูกเกณฑ์เป็นทหารต้องกลับฝรั่งเศส คุณพ่อแปรูดง
เคยเป็นบุรุษพยาบาลที่เมืองมุแลงมาแล้ว เป็นพระสงฆ์ประจำกองทัพที่แวร์เดิง
และที่สุดเป็นล่ามภาษาจีน
|
ปี ค.ศ. 1919
|
สงครามโลกครั้งแรกสิ้นสุดลง
คุณพ่อเดินทางมากรุงเทพฯ
ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดนักบุญยาก๊อบฟิลิป หัวไผ่
การปกครองหมู่บ้านวัดนี้มีปัญหายุ่งยากมากพอสมควร
เนื่องจากวัดนี้มีที่นาจำนวนมาก
|
ปี ค.ศ. 1922
|
คุณพ่อย้ายไปวัดเพลง แทนคุณพ่อฟูยาต์
|
ปี ค.ศ. 1924
|
คุณพ่อรู้สึกเหน็ดเหนื่อยมาก
จึงรับแต่งตั้งเป็นจิตตาธิการภคินีคณะรักไม้กางเขนที่สามเสน แล้วที่คลองเตย
ในเมื่อภคินีคณะนี้ย้ายไปอยู่ที่นั่น เมื่อคุณพ่อกอลมเบต์ คุณพ่อเจ้าอาวาส
อาสนวิหาร และผู้ตั้งโรงเรียนอัสสัมชัญ
ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ คุณพ่อแปรูดง
จึงได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสอาสนวิหารอัสสัมชัญในปี
|
ปี ค.ศ. 1934
|
คุณพ่อประจำอยู่ที่นี่จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
|
ปี ค.ศ. 1934
|
คุณพ่อได้รับแต่งตั้งเป็นรองประมุขมิสซังสยามและอุปสังฆราชด้วย
|
|
ในฐานะที่เป็นเจ้าอาวาสอาสนวิหาร
คุณพ่อแปรูดง นอกจากทำงานด้านอภิบาลสัตบุรุษ เช่น สอนคำสอนเด็ก
อธิบายคำสอนแก่ผู้ใหญ่เทศน์ในวันอาทิตย์แล้ว
คุณพ่อยังไปเยี่ยมครอบครัวที่อาศัยอยู่บริเวณวัด ฯลฯ นอกนั้น
คุณพ่อยังเอาใจใส่ด้านวัตถุ คือ คุณพ่อได้สร้างบ้านพักพระสงฆ์ เป็นอาคาร 3ชั้น
โรงเรียนประจำวัด ปรับปรุงบ้านพักของภคินีรักไม้กางเขน ซึ่งดูแลวัดอยู่
คุณพ่อจัดการให้โรงเรียนดำเนินไปด้วยดี
คุณพ่อคิดถึงงานแพร่ธรรมต่อคนต่างศาสนาด้วย
จึงจัดสร้างโรงเรียนขึ้นที่ตรอกจันทน์ เป็นโรงเรียนสำหรับนักเรียนหญิง
มอบให้คณะอุร์สุลินดูแล แล้วจึงจัดสร้างโรงเรียนชาย โดยให้คุณพ่อบากอง
ซึ่งเป็นพ่อปลัด ช่วยคุมการก่อสร้างโรงเรียนจนเสร็จ คุณพ่อแปรูดงไม่ลืมว่า
กลุ่มคริสตชนเกิดขึ้นมิใช่เฉพาะบริเวณโรงเรียนเท่านั้น แต่มีรอบวัดด้วย
ดังนั้น ในบริเวณโรงเรียน คุณพ่อจึงสร้างวัดใหญ่ ชื่อวัดนักบุญยอแซฟ
ซึ่งเมื่อคุณพ่อแปรูดงสิ้นใจนั้น วัดนี้ยังสร้างไม่เสร็จ
เพราะคุณพ่อยึดหลักว่า ทำเท่าที่มีเงินในตู้เซฟ แต่ในไม่ช้า
การสร้างวัดนี้ก็สำเร็จ เพราะว่าการก่อสร้างได้ดำเนินงานไปมากแล้ว
|
|
เมื่อคุณพ่ออายุมากขึ้น
เดินเหินก็ไม่ค่อยสะดวก
คุณพ่อคิดว่าคงไม่สามารถครองวัดที่มีสมาชิกจำนวนมากเช่นนี้ได้โดยไม่เกิดความเสียหาย
คุณพ่อจึงขอลาจากหน้าที่เจ้าอาวาสอาสนวิหารอัสสัมชัญ
|
ปี ค.ศ. 1960
|
คุณพ่อวิลเลี่ยม ตัน
ซึ่งเป็นพ่อปลัด ก็ได้เป็นคุณพ่อเจ้าอาวาสแทน ต่อมาไม่ช้าคุณพ่อแปรูดง
ขอลาออกจากหน้าที่รองประมุขและอุปสังฆราช มีคุณพ่อเมอนิเอร์รับหน้าที่แทน
|
|
คุณพ่อแปรูดงเข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ พออาการดีขึ้น ก็ออกจากโรงพยาบาล แล้วกลับเข้าไปใหม่
|
|
คุณพ่อเมอนิเอร์โปรดศีลเจิมสุดท้ายแก่คุณพ่อ
|
|
คุณพ่อมรณะวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1961 ที่โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ กรุงเทพฯ
|
|
|
|
ข้อมูลจากจดหมายเหตุ
|