|
ประวัติโดยสังเขป
|
วัน/เดือน/ปีเกิด
|
วันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1875 ที่เมืองแซ็งต์เยรแม็ง ลา ปอเตอรี่ (วาซ)
|
เข้าบ้านเณรมิสซังต่างประเทศ
|
วันที่ 20กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1894
|
รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์
|
วันที่ 25มิถุนายน ค.ศ. 1899
|
ออกเดินทางมาประเทศสยาม
|
วันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1899
|
|
|
ปี ค.ศ. 1901
|
คุณพ่อการต็องรับแต่งตั้งเป็นปลัด ที่วัดแม่พระนิรมล จันทบุรี และท่านดำรงตำแหน่งนี้
|
ปี ค.ศ.1908
|
เมื่อวัดใหม่จันทบุรีสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
คุณพ่อการต็อง ได้ช่วยคุณพ่อแฟฟร์ ในการพัฒนากลุ่มคริสตชนน้อยๆ
ทั้งหลายในเขตนี้
|
ปี ค.ศ. 1910
|
ภายใต้คำแนะนำ
และความช่วยเหลือของคุณพ่อเปริกัลเจ้าอาวาส
ท่านพยายามตั้งกลุ่มคริสตชนใหม่ในเขตนี้ เพราะเห็นว่า
กรณีเเวดล้อมดูเหมือนจะอำนวย ให้ เพราะตลอดทั้งเขตดังกล่าว เวลานั้น
มีคริสตังถึง 3,080 คนแล้ว
|
ปี ค.ศ. 1910
|
ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสดูแลวัดพระนามกรเยซู
บ้านแป้ง และรับผิดชอบดูแลกลุ่มคริสตชนที่ปากน้ำโพด้วย ปี ค.ศ. 1911
ท่านได้รับคุณพ่อกาสตัล เป็นพ่อปลัดผู้ช่วย
และได้รับมอบหมายให้คุณพ่อปลัดไปดูแลวัดปากน้ำโพ เป็นต้น
คุณพ่อการต็องดำริที่จะตั้งกลุ่มคริสตชนที่ บางขาม และตั้งกลุ่มคริสตชนอื่นๆ
ชาวจีนและญวณ แต่ก็ไม่อาจสัมฤทธิ์ผล
ด้วยว่าไม่มีผู้แปลคำสอนที่จะจัดส่งไปได้
|
ปี ค.ศ. 1912
|
ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเหรัญญิกของมิสซัง
แล้วรับมอบหมายให้เปิดโรงเรียนฝึกหัดครูแปลคำสอน
ใต้ความอุปถัมภ์ของท่านนักบุญ ตาร์ซีซิอุส ขณะเดียวกัน ท่านก็รับผิดชอบ
วัดนครชัยศรีด้วย ซึ่งท่านจะสามารถหานักเรียนที่จะอบรมให้เป็นครูได้
เมื่อท่านเปิดโรงเรียนนี้ รับนักเรียนจำนวน 17 คน และท่านได้ส่งให้คุณพ่อรงแดล
ที่โคราช
|
ปี ค.ศ. 1914
|
ท่านต้องกลับฝรั่งเศส เนื่องจากเกิดสงครามโลก
|
ปี ค.ศ. 1919
|
ท่านกลับมาสู่สยาม
ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นอธิการบ้านเณรบางช้าง ขณะที่โรงเรียนเซนต์ตาร์ซีซิอุส
มาอยู่ในความดูแลของคุณพ่อแฟร์เลย์
ผู้มีความสามารถมากกว่าสำหรับบริหารโรงเรียนประเภทนี้
|
ปี ค.ศ.1921
|
คุณพ่อการต็อง
อธิการบ้านเณรบางช้างรายงานมาว่า ท่านมีความพอใจ
เนื่องจากบรรดาเณรของท่านมีความศรัทธา และพยายามทำงานให้ได้ผลดี
|
ปี ค.ศ. 1925
|
พระสังฆราชแปร์รอส
รายงานถึงกรุงปารีสว่า : “สามเณราลัย และ โรงเรียนเซนต์ตาร์ซีซิอุส
ดำเนินงานต่อไปตามปรกติ ระเบียบบังคับใหม่ๆ ของทางกระทรวงศึกษาธิการ
มิได้ทำให้งานของอธิการ และคณาจารย์ลดน้อยลงไป
แต่เราก็มีความชื่นชมยินดีที่สังเกตเห็นว่า ผลที่ได้รับนั้น
ไม่ยิ่งหย่อนกว่าโรงเรียนรัฐบาลทั้งหลาย”
|
|
รายงานดังกล่าว
ตรงกับความเป็นจริง ในเรื่องที่เกี่ยวกับโรงเรียนเซนต์ตาร์ซีซิอุส
ซึ่งตั้งอยู่ที่แปดริ้ว ใต้ความควบคุมของคุณพ่อแฟร์เลย์
แต่ในเรื่องที่เกี่ยวกับบ้านเณรบางช้าง ซึ่งตั้งอยู่ที่บางนกแขวก
ใต้ความดูแลของคุณพ่อการต็อง
นับได้ว่ารายงานดังกล่าวนั้นคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ด้วยเหตุว่า
คุณพ่อการต็องไม่เคยสนใจเรื่องหลักสูตรของรัฐบาล ทั้งบรรดาครู (พระสงฆ์)
รับการแต่งตั้งมาจากพระสังฆราช โดยมิได้ขออนุญาตใดๆ
ทั้งสิ้นจากกระทรวงศึกษาธิการ
ทั้งนักเรียนก็มิได้เล่าเรียนตามหลักสูตรของรัฐบาลแต่อย่างใด และดังนั้น
เณรนักเรียนจึงไม่สามารถที่จะเข้าสอบไล่ตามหลักสูตรของกระทรวง
เพราะมิได้เรียนวิชาต่างๆ เหล่านั้น
และอีกทั้งโรงเรียนสามเณราลัยก็มิได้รับการลงทะเบียนเป็นโรงเรียนด้วย
สิ่งเหล่านี้ตรงกันข้ามกับ โรงเรียนเซนต์ตาร์ซีซิอุส
ของคุณพ่อแฟร์เลย์ที่แปดริ้ว ซึ่งได้จดทะเบียนเรียบร้อย
ขออนุญาตให้บรรดาครูสอนได้จากกระทรวงศึกษาธิการ
ส่งนักเรียนเข้าสอบด้วยผลการสอบก็ได้ไม่แพ้โรงเรียนรัฐบาล
พระคุณเจ้าแปร์รอส คงรายงานผิดพลาดไป เอาโรงเรียนสามเณราลัย กับ
โรงเรียนเซนต์ตาร์ซีซิอุส มาปนเปกัน ทำให้เข้าใจไม่ถูกต้อง
|
ปี ค.ศ. 1931
|
คุณพ่อการต็องรายงานว่า
จำเป็นต้องปลดนักเรียนหลายคนออกจากบ้านเณร กระนั้นก็ดี
ก็ยังมีความก้าวหน้าในเรื่องความศรัทธาและหลักสูตรที่ใช้สอนในบ้านเณรก็ได้รับความเห็นชอบจากผู้ใหญ่ทางฝ่ายศาสนา
ดูเหมือนว่า คราวนี้เหมาะสมกับกำลังการและสติปัญญาของบรรดาเณรทั้งหลาย
และคุณพ่อแสดงความยินดีเกี่ยวกับข่าวที่ได้รับจากเณรไทย 3 คน
ซึ่งได้ไปศึกษาที่ วิทยาลัยโปรปากันดา ที่กรุงโรม (มีท่านสงวนสุวรรณศรี
ท่านมิเเชล อ่อน ประคองจิต และท่านนิตโย) ในปี ค.ศ. 1935
บ้านเณรนี้ซึ่งตั้งอยู่ที่บางช้างตั้งแต่ ค.ศ. 1872 ได้ย้ายไปอยู่ ศรีราชา
ริมฝั่งตะวันออกอ่าวสยาม
|
ปี ค.ศ. 1937
|
ทางศึกษาธิการจังหวัดชลบุรี
สังเกตเห็นว่า ที่ศรีราชานี้ มีโรงเรียน สามเณราลัยพระหฤทัย
มิได้จดทะเบียนเป็นโรงเรียน บรรดาครูสอนทั้งหลายก็มิได้ขออนุญาตเป็นครู
จากกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งไม่มีประกาศนียบัตรใดๆ
นักเรียนก็มิได้ส่งเข้าสอบด้วย จึงไปติดต่อคุณพ่อการต็อง
ขอให้รีบจัดการให้เรียบร้อยโดยให้บาทหลวงที่เป็นครูทุกคนต้องเข้าสอบวิชาทั้งหมด
รวมทั้งภาษาไทยด้วย และบังคับให้สอนตามหลักสูตรรัฐบาล
เพื่อจะส่งนักเรียนเข้าสอบไล่ตามกฎกระทรวง ดังนั้น
|
ปี ค.ศ. 1938
|
คุณพ่อการต็อง
ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการส่งเด็กนักเรียนเข้าสอบตามหลักสูตรรัฐบาล
จึงขอลาออกจากหน้าที่อธิการโรงเรียนของสามเณราลัยแห่งนี้
แล้วไปรับหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสดูแลวัดต่างๆ ในเขตจังหวัดเชียงใหม่
ครั้นถึงเชียงใหม่แล้ว คุณพ่อการต็อง
ชื่นชมการงานซึ่งมิชชันนารีที่ได้กระทำไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณพ่อเมอนิเอร์
|
ปี ค.ศ. 1939
|
โดยที่หาทุนไม่เพียงพอ
คุณพ่อการต็องจึงต้องทำการปิดโรงเรียนหลายแห่ง
อันเป็นสิ่งน่าเสียดายอย่างยิ่ง
|
ปี ค.ศ. 1941
|
คุณพ่อการต็องกลับมากรุงเทพฯ
เนื่องจากกรณีพิพาทอินโดจีน พอต้นเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1941 ท่านก็ถูกส่งไปไซง่อน
พร้อมกับบรรดาเพื่อนมิชชันนารีอีก 12 คน
|
ปี ค.ศ. 1942
|
เมื่อกลับกรุงเทพฯ
ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นวิญญาณารักษ์ ของซิสเตอร์คณะรักไม้กางเขน
ที่อารามพระหฤทัยคลองเตย
|
ปี ค.ศ. 1948
|
ท่านล้มป่วยลง แล้วสิ้นใจที่โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ในวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 1948
รวมอายุได้ 73 ปี เป็นมิชชันนารีได้ 49 ปี
|
|
ข้อมูลจากจดหมายเหตุ
|