˹ѡǡѺç¹ͧԴͤ

         จอห์น นิวตัน (John  Newton) เป็นลูกชายของกัปตันเรือชาวอังกฤษ พออายุได้ 10 ขวบ แม่ของเขาเสียชีวิต เขาจึงต้องลงเรือออกทะเลไปพร้อมกับบิดาตั้งแต่นั้นมา และได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรือและการเดินเรือทุกอย่าง จนกระทั่งอายุ 17 ปี เขาได้ทะเลาะกับบิดา และออกมาอยู่คนเดียว ดำเนินชีวิตแบบดิบๆ ต่อมาเขาได้งานในเรือขนส่งสินค้าที่ขนพวกทาสจากทวีปอาฟริกาไปยังอเมริกา ทำงานไม่นานก็ได้เลื่อนตำแหน่งไปเป็นกัปตันของเรือลำนั้นในเวลาอันรวดเร็ว เขาไม่กังวลใดๆ ว่าการค้าทาสจะถูกหรือผิด ขอให้เขาทำงานแล้วได้เงินก็พอ แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ถึงกับเปลี่ยนชีวิตของเขาไปเลยทีเดียว นั่นคือ ในคืนหนึ่งเกิดพายุแรงมากในทะเล คลื่นสูงเหมือนภูเขาซัดกระหน่ำเรือของนิวตัน ทำให้หมุนไปหมุนมาเหมือนเป็นของเล่น ทุกคนในเรือตกอกตกใจและมีความอลหม่านเป็นอย่างยิ่ง ในขณะนั้นเอง นิวตันได้ทำสิ่งที่เขาไม่เคยทำเลยตั้งแต่ละทิ้งเรือของบิดามา คือเขาสวดภาวนาโดยร้องตะโกนออกมาอย่างสุดเสียงว่า "ข้าแต่พระเจ้า ถ้าพระองค์ทรงช่วยเราให้รอด ผมสัญญาว่าจะยอมเป็นทาสของพระองค์ตลอดไป" พระเจ้าทรงสดับฟังคำภาวนาของเขา และเรือได้รอดพ้นจากภัยพิบัตินั้น เมื่อเรือกลับถึงฝั่ง เขาทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ เลิกงานค้าทาส ต่อมา เขาได้ศึกษาเพื่องานศาสนบริการ และได้บวชเป็นศาสนาจารย์ในโบสถ์เล็กๆที่ Olney ประเทศอังกฤษ ต่อมาเขาเริ่มมีชื่อเสียงในฐานะเป็นนักเทศน์ และนักแต่งบทเพลงสดุดี

     หนึ่งในบทสดุดีที่นิวตันได้เขียนไว้เพื่อสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทรงช่วยให้เขาได้กลับใจคือ Amazing Grace ซึ่งต่อมามีคนนำมาเขียนทำนองเพลงที่ไพเราะ และขับร้องกันเรื่อยมา เป็นที่นิยมจนถึงสมัยปัจจุบัน ขอตัดเนื้อร้องบางตอนมาไว้ ณ ที่นี้ :

"Amazing Grace ! how sweet the sound,
That saved a wretch like me !
I once was lost, but now am found -
Was blind, but now I see....

Through many dangers, toils, and snares
I have already come ;
Tis grace hath brought us safe thus far
And grace will lead us home."

(มีคำแปลเนื้อเพลงนี้ที่ผู้เขียนได้แต่งเป็นกาพย์สุรางคนางค์ 28 ต่อเติมอยู่ในตอนท้าย)

     เรื่องประวัติส่วนหนึ่งของ John Newton ทำให้เราคิดถึงพระวรสารตอนที่เกิดพายุแรงกล้าในทะเลสาบ พระเยซูเจ้าและบรรดาศิษย์ติดอยู่ในเรือ พระเยซูเจ้าบรรทมหลับอยู่ที่ท้ายเรือ แต่บรรดาศิษย์กำลังสับสนอลหม่าน เหมือนกับที่นิวตันร้องขอความช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ทรงช่วยเขาให้รอด บรรดาศิษย์ก็ได้ทำเช่นนั้นมาก่อน ที่เหมือนกันอีกประการหนึ่ง คือ เมื่อคำภาวนาร้องขอให้ช่วยได้รับการตอบสนองจากองค์พระผู้เป็นเจ้า พวกเขาก็เปลี่ยนแปลงชีวิตตลอดไป

Amazing Grace

(*)พระหรรษทาน
เกินฝันบันดาล
เบิกบานฤทัย
ช่วยฉันให้ปลอด
ให้รอดผองภัย
ฉุดฉันขึ้นไป
จากปลักโคลนตม

(*)แม้มีอันตราย
ก็กลับแคล้วคลาย
มลายขื่นขม
พระหรรษทาน
ที่หว่านพร่างพรม
นำความระทม
ให้จมหายไป

(*)ทรงช่วยให้รอด
ฉันเคยตาบอด
วายวอดหวั่นไหว
แต่กลับกลายเป็น
มองเห็นทันใด
เคยหลงทางไป
กลับได้พบพาน

(*)ไถ่ให้รอดพ้น
อิสระท่วมท้น
เหลือล้นเกินขาน
ทรงไถ่โทษเรา
ปัดเป่าเอาภาร
เหมือนฝนตระการ
สืบสานชีวา

(*)พระหรรษทาน
เกินฝันบันดาล
เบิกบานนักหนา
ฉันเคยล้มลง
แต่ทรงนำพา
พาฉันขึ้นมา
ด้วยหรรษทาน

(วิชา หิรัญญการ กาพย์สุรางคนางค์ 28 เครดิต: เนื้อเพลง Amazing Grace )
 

˹ѡ