ศาสนบริกรท่านหนึ่งกำลังทำพิธีล้างให้กับสมาชิกใหม่ของวัดจำนวน 5 คน เป็นการล้างบาปแบบจุ่มตัวลงไปในน้ำ
คนที่ 1 เป็นผู้หญิง พอขึ้นมาจากน้ำก็ร้องด้วยความยินดีว่า "จิตใจของข้าฯเอ๋ย จงสรรเสริญองค์พระเจ้าเถิด"
คนที่ 2 เมื่อได้รับการล้างแล้ว ก็ร้องขึ้นว่า "องค์พระเจ้าทรงเป็นนายชุมพาของฉัน"
คนที่ 3 ก็อ้างพระคัมภีร์ว่าดังนี้ "ใครจะมาพรากฉันไปจากความรักของพระคริสตเจ้าได้"
คนที่ 4 ก็กล่าวข้อความในพระคัมภีร์ว่า "ฉันสามารถทำทุกสิ่งได้โดยทางพระเยซูเจ้า ผู้ประทานพละกำลังให้ฉัน" ส่วนคนที่ 5 ค่อนข้างอาย
ด้วยว่ามีความรู้ทางพระคัมภีร์น้อยกว่าคนอื่น เขาค่อนข้างกังวลว่าจะกล่าวอะไร พอเขาขึ้นมาจากน้ำ เขาก็กล่าวกับคนที่อยู่รอบๆ ว่า "สุขสันต์คริสต์มาสแด่ทุกๆ คน"
พระศาสนจักรคาทอลิกถือว่า
วันฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างเป็นวันปิดท้ายเทศกาลคริสต์มาส การฉลองวันนี้ เราระลึกถึงพระเยซูเจ้าขณะมีพระชนมายุ 30 พรรษา ทรงก้าวเดินออกมาจากพระชนมชีพเร้นลับ และก่อนที่จะทรงเริ่มต้นการทำศาสนบริการสาธารณะของพระองค์
พระองค์เสด็จไปที่แม่น้ำจอร์แดนเพื่อรับพิธีล้างจากท่านยอห์น บัปติสต์ แม้ว่าพระองค์จะทรงอยู่เหนือกว่ายอห์นในทุกๆทาง แต่ก็ทรงไปรับพิธีล้างจากท่านยอห์น
นักบุญลูกาพรรณนาเหตุการณ์ขณะที่ยอห์น
บัปติสต์ทำพิธีล้างให้พระเยซูเจ้า โดยแสดงพระสิริรุ่งโรจน์จากสวรรค์ให้เป็นที่ปรากฏ เพื่อหมายถึงความเป็นหนึ่งเดียวและความยิ่งใหญ่ขององค์พระเยซูเจ้า ดังจะเห็นภาพเหล่านี้ กล่าวคือ
1) "ท้องฟ้าก็เปิดออก"
ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงอธิษฐานภาวนาอยู่นั้น ท้องฟ้าก็เปิดออก ยอห์น บัปติสต์ ทำพิธีล้างด้วยน้ำให้ใครต่อใครมามากมาย แต่ไม่มีใครสามารถทำให้เห็นว่าท้องฟ้าได้เปิดออกนอกจากพระเยซูเจ้าเท่านั้น ถ้าเราท้าวความไปในกาลก่อน
องค์พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพได้ทรงแยกน้ำทะเลออกและเปิดทางให้ชาวอิสราเอลก้าวเดินไปสู่ดินแดนแห่งพระสัญญา บัดนี้ โดยคำภาวนาของพระองค์ ทรงเปิดท้องฟ้าออกให้เราก้าวเดินไปสู่ดินแดนแห่งพระสัญญานิรันดร (The Eternal Promised
Land) ก่อนหน้านี้ สวรรค์ได้ปิดสำหรับคนบาป แต่บัดนี้ พระผู้ช่วยให้รอดผู้ยิ่งใหญ่ของเราได้ทรงเปิดสวรรค์ให้กับชาวเรา พระเยซูเจ้าทรงเป็นเหมือนบันไดของยาโคบที่มีปลายข้างหนึ่งหยั่งอยู่บนพื้นโลก
แต่ปลายอีกด้านจรดสวรรค์ เป็นที่เชื่อมสวรรค์และโลก ทำให้เราสามารถติดต่อกับสวรรค์ได้โดยทางพระองค์
2) "และพระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระองค์"
เมื่อพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง พระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระองค์ มีรูปร่างที่เห็นได้ดุจนกพิราบ ในห้วงเวลาสร้างสรรค์จักรวาลครั้งแรกนั้น พระจิตของพระเจ้าทรงอยู่เหนือน้ำ และ ณ เวลานี้
ในการเนรมิตสิ่งสร้างใหม่โดยพระเยซูคริสต์ พระจิตเจ้าก็เสด็จลงเหนือพระองค์พระผู้ไถ่ พระเยซูเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระจิตเจ้าเสมอ มิทรงเคยแยกห่างจากพระจิตเจ้าเลย ที่มีรูปเห็นได้ดั่งนกพิราบก็เพื่อแสดงให้ยอห์น
บัปติสต์ได้รู้ว่า นี่คือพระคริสต์ ซึ่งท่านได้รับการแจ้งล่วงหน้าว่าจะจดจำพระองค์ได้ด้วยสัญลักษณ์นี้ "เจ้าเห็นพระจิตเจ้าเสด็จลงมาประทับอยู่เหนือผู้ใด ผู้นั้นคือผู้ที่ทำพิธีล้างเดชะพระจิต" =
พระจิตเจ้าประทับอยู่เหนือพระเมสสิยาห์ (ยน 1:33) และตามที่ประกาศกอิสยาห์ได้เคยบอกไว้ล่วงหน้าเกี่ยวกับพระเมสสิยาห์ "พระจิตของพระยาเวห์จะพำนักอยู่เหนือเขา" (อสย 11:2) "พระจิต...ทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า
เพราะพระยาเวห์ทรงเจิมข้าพเจ้าไว้ให้ประกาศข่าวดีแก่คนยากจน..." (อสย 61:1)
3) แล้วมีเสียงจากสวรรค์ว่า
"ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา
เป็นที่โปรดปรานของเรา" พระสุรเสียงของพระเจ้าเป็นการยืนยันว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระบุตรของพระองค์ เป็นผู้ที่พระองค์ทรงรักเป็นที่สุด พระองค์จะทรงประกอบพันธกิจในการกอบกู้ในฐานะเป็นพระผู้ไถ่
บรรดาปิตาจารย์หลายๆท่านได้แสดงความเห็นว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเวลาที่พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างจากนักบุญยอห์น บัปติสต์ที่แม่น้ำจอร์แดนนั้น แสดงให้เห็นเด่นชัดถึงธรรมล้ำลึกเรื่องพระตรีเอกภาพ
พี่น้องครับ
ดุจดังเช่นพระสุรเสียงของพระบิดาที่ตรัสมาจากสวรรค์ว่า "ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา เป็นที่โปรดปรานของเรา" ชาวเราก็อาจจะกราบทูลพระเยซูเจ้าได้ว่า "พระองค์คือพระผู้ไถ่ที่รักของเรา เป็นที่โปรดปรานของชาวเรายิ่งนัก" ให้เรามอบจิตวิญญาณแด่พระคริสต์ เพื่อพระบิดาจะได้ทรงโปรดปรานเราในพระเยซูคริสตเจ้า
|