มีเสียงของผู้ที่ร้องในถิ่นทุรกันดารว่า จงเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า
พระวรสารของนักบุญลูกาสำหรับวันอาทิตย์นี้
ได้เริ่มต้นอย่างยิ่งใหญ่ถึงความเป็นมหาอำนาจของชนชาติโรมันซึ่งปกครองในยุคของท่านยอห์น บัปติสตา
ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้นเช่น จักรพรรดิทิเบรีอัส ซีซาร์ ซึ่งครองราชย์มา 15 ปี มีปอนทิอัส ปีลาต ผู้ว่าราชการแคว้นยูเดีย กษัตริย์เฮโรด ทรงเป็นเจ้าปกครองแคว้นกาลิลี... แต่ความยิ่งใหญ่ทางฝ่ายโลกนี้ หาได้มีความสำคัญใดๆ ไม่ในแผนการของพระเจ้า พระวาจาของพระเจ้ากลับมาถึงยอห์น บุตรของเศคาริยาห์ ในถิ่นทุรกันดาร
พี่น้องครับ
บางทีเราคิดและแสวงหาความรุ่งเรืองและอำนาจอันยิ่งใหญ่ เพราะคิดว่านี่เป็นช่องทางที่พระเจ้าจะใช้เพื่อส่งผ่านพระกรุณาธิคุณของพระองค์มายังโลกนี้ แต่พระองค์กลับส่งผ่านมาทางบุคคลที่เก็บตัวเงียบอยู่ในถิ่นทุรกันดาร
และเขาก็สวมบทบาทของประกาศกอิสยาห์ โดยทำตัวเป็นแค่เสียงที่ร้องตะโกนในถิ่นทุรกันดารว่า จงเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางเดินของพระองค์ให้ตรงเถิด หุบเขาทุกแห่งจะถูกถมให้เต็ม
ภูเขาและเนินทุกแห่งจะถูกปรับให้ต่ำลง ทางคดเคี้ยวจะกลายเป็นทางตรง ทางขรุขระจะถูกทำให้ราบเรียบ แล้วมนุษย์ทุกคนจะเห็นความรอดพ้นจากพระเจ้า
พันธกิจของท่านยอห์น
คือการเตรียมประชาชนสำหรับการเสด็จมาของพระคริสต์ ซึ่งท่านก็มีวิธีดึงดูดความสนใจของประชาชนในแบบของท่าน ท่านปรากฏตัวในถิ่นทุรกันดารอย่างสายฟ้าฟาด
ก่อนหน้าท่านเป็นเวลา 400 ปีที่ประชาชนไม่ได้ยินและไม่ได้เห็นประกาศกเลย ดังนั้น เมื่อเล่าลือว่ามีประกาศกคนหนึ่งปรากฏขึ้นในถิ่นทุรกันดารของยูดาห์ ประชาชนก็ให้ความสนใจและรีบเร่งมาดูปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดนั้น ท่านยอห์นปรากฏกายในถิ่นทุรกันดาร และที่แม่น้ำจอร์แดนด้วย ภาพนี้สะท้อนให้เห็นในช่วงเวลาอพยพที่นำโดยโมเสสไปต่อกรและมีชัยชนะเหนือคานาอัน ซึ่งทำให้เกิดการสร้างชาติอิสราเอลขึ้นมาในฐานะเป็นประชากรแห่งพันธสัญญา เครื่องนุ่งห่มของท่านที่ทำจาก ขนอูฐและเข็มขัดหนังรอบเอว นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของการพลีกรรมแล้ว ยังเป็นชุดแบบเดียวที่ประกาศกในยุคก่อนเช่น เอลียาห์ สวมใส่อีกด้วย อาหารของท่านที่บอกว่าเป็นตั๊กแตน และน้ำผึ้ง ก็คืออาหารของผู้เดินทางในถิ่นทุรกันดารนั่นเอง
นอกจากดึงดูดความสนใจของคนแล้ว
ท่านได้เตรียมประชาชนให้ต้อนรับพระคริสต์ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ท่านเรียกร้องให้ กลับใจและใช้โทษบาป เพราะพระอาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว
ท่านยังเตรียมประชาชนโดยเป็นผู้ชี้ให้ทุกคนหันไปหาพระคริสต์
ท่านบอกว่าท่านเป็นแต่เพียงเสียง แต่พระเยซูเจ้าเป็นพระวจนะ เมื่อผู้คนพบกับพระเมสสิยาห์ที่แท้จริงแล้ว ท่านก็หมดหน้าที่ และพร้อมที่จะจากไป
ดังนั้น เป็นหน้าที่ของเราแต่ละคนที่จะสำรวจตัวเองว่า
ในการเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้านั้น
เราได้เตรียมตัวจริงจังแค่ไหน เราได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราโดยการลด (อบายมุขและสิ่งไม่ดีทั้งหลาย) การเพิ่มหรือเติม (คุณธรรมและสิ่งที่ดีต่างๆ ) อีกทั้งการเปลี่ยนจิตใจและการใช้โทษบาป เพราะตระหนักดีว่าอาณาจักรสวรรค์ใกล้มาถึงแล้ว
|