หน้าหลักเกี่ยวกับคณะฯโรงเรียนของคณะฯติดต่อคณะฯ

ความหมายของเทศกาลมหาพรต

     เทศกาลมหาพรต เป็นช่วงเวลาที่พระศาสนจักรกำหนดเพื่อเตรียมสมโภชปัสกา ซึ่งเป็นวันฉลองที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดในรอบปีของพระศาสนจักร เพราะสมโภชปัสกาเป็นการเฉลิมฉลองการที่พระเยซูเจ้าทรงรับทรมาน สิ้นพระชนม์และทรงกลับคืนพระชนมชีพ เพื่อกอบกู้มนุษยชาติให้คืนดีกับพระเจ้า มารับชีวิตร่วมกับพระองค์

         1) สำหรับผู้ใหญ่ที่เตรียมตัวรับศีลล้างบาป (คริสตังสำรอง) เป็นการเตรียมในขั้นตอนสุดท้ายของพิธีรับผู้ใหญ่เข้าเป็นคริสตชน

         2) สำหรับคริสตชน การเตรียมสมโภชปัสกาในเทศกาลมหาพรต เป็นโอกาสให้คริสตชนรื้อฟื้นคุณค่าและศักดิ์ศรีของศีลล้างบาปที่เขาได้รับ (คริสตชนจะรื้อฟื้นคำสัญญาแห่งศีลล้างบาปอย่างสง่าในคืนวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์) และคริสตชนยังเตรียมสมโภชปัสกา
ด้วยการฟังพระวาจาพระเจ้า กลับใจ ใช้โทษบาป สวดภาวนา และบำเพ็ญกิจเมตตาปรานี

     นอกจากนี้ เทศกาลมหาพรตยังเป็นโอกาสที่จะสอนคำสอนสำหรับคริสตชนผู้ใหญ่ที่ได้รับศีลล้างบาปแล้วตั้งแต่เป็นเด็ก แต่
ยังไม่ได้รับศีลอภัยบาป ศีลมหาสนิท และศีลกำลัง เพื่อให้เขาเติบโตในความเชื่อ และเพื่อเตรียมพวกเขาให้รับศีลศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวนี้

ระยะเวลาของเทศกาลมหาพรต

     เทศกาลมหาพรตเริ่มในวันพุธรับเถ้า และจบลงในวันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ก่อนพิธีมิสซาตอนเย็นระลึกถึงการเลี้ยงของพระคริสตเจ้า

สัญลักษณ์ 40 วันของเทศกาลมหาพรต

     สัญลักษณ์ 40 วันของเทศกาลมหาพรต มีความหมายเกี่ยวข้องกับเลข 40 ในพระคัมภีร์ จากแบบฉบับของพระเยซูเจ้าที่ทรงอดอาหารในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลา 40 วัน (มธ. 4:2 ; ลก. 4:1-2)
 
     นอกจากนั้นในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ยังได้กล่าวถึงโมเสสอดอาหาร 40 วัน ขณะที่อยู่กับพระยาห์เวห์ในการรื้อฟื้นพันธสัญญาบนภูเขาซีนาย  (อพย. 34:28) เอลียาห์อดอาหาร 40 วัน ขณะที่
ี่เดินทางไปที่ภูเขาโฮเรบ (1 พกษ. 19:8) และชาวอิสราเอลใช้เวลา 40 ปี ในถิ่นทุรกันดารก่อนที่จะเข้าสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญา

     ในพระคัมภีร์เลข 40 เป็นสัญลักษณ์หมายถึง การผ่าน การเตรียมตัว การกลับใจ การใช้โทษบาป การชำระตน การหันหลังให้กับความชั่วร้ายและการตัดสินใจเลือกพระเจ้า

พิธีกรรมในเทศกาลมหาพรต

     เนื่องจากเทศกาลมหาพรต เป็นช่วงเวลาแห่งการเตรียมสมโภชปัสกาประจำปี ดังนั้น  พิธีมิสซา
และพิธีกรรมทำวัตรของพระศาสนจักรในเทศกาลนี้ จึงได้บรรจุพระวาจา ข้อเขียนของปิตาจารย์ และบท
ภาวนา ที่ให้คำสอน ข้อคิด และแนวทางในการปฏิบัติแก่คริสตชนและคริสตังสำรอง จะเห็นได้ว่าพิธีกรร มซึ่งเป็นคำภาวนาของพระศาสนจักรนับว่าเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตของคริสตชนในเทศกาลมหาพรต จึงควรที่เราจะมาทำความเข้าใจพิธีกรรมในเทศกาลมหาพรต โดยในส่วนนี้ขอนำเสนอความหมายของมิสซาในวันพุธรับเถ้า

วันพุธรับเถ้า วันเริ่มต้นของเทศกาลมหาพรต

     วันพุธก่อนวันอาทิตย์แรกของเทศกาลมหาพรต สัตบุรุษจะรับเถ้าเป็นการเริ่มต้นเทศกาลมหาพรต

     พิธีเสกและโรยเถ้า ตามปกติจะทำในพิธีมิสซา หลังอ่านพระวรสารและเทศน์ ซึ่งให้ความหมายว่า พระวาจาของพระเจ้าเป็นพลังสำคัญที่ปลุกเร้าจิตใจของคริสตชนให้สำนึกตน กลับใจ และใช้โทษบาปในเทศกาลมหาพรตนี้

     บทอ่านจากพระคัมภีร์ในพิธีมิสซาวันพุธรับเถ้า บทอ่านแรกจากหนังสือประกาศกโยเอล (ยอล. 2:12-18) กล่าวว่า 
“เจ้าทั้งหลายจงเต็มใจกลับมาหาเรา ด้วยการอดอาหาร ร้องไห้ และเป็นทุกข์คร่ำครวญ ณ บัดนี้เถิด” บทอ่านที่สองนำมาจากจดหมายของนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่ 2 (2 คร. 5:20-6:2) ยังคงกล่าวถึงการกลับใจอย่างต่อเนื่องว่า “จงคืนดีกับพระเจ้าเถิด บัดนี้แหละเป็นเวลาที่เหมาะสม” และพระวรสารนักบุญมัทธิว ให้ความหมายที่แท้จริงของการกลับใจในภาคปฏิบัติ โดยนำเสนอคำสอนของพร ะเยซูเจ้าในเรื่อง “การทำทาน” “การอธิษฐานภาวนา” และ “การจำศีลอดอาหาร” พระองค์ทรงสอนว่า “จงระวังอย่าประกอบกิจ
การดีของท่านต่อหน้ามนุษย์เพื่ออวดเขา มิฉะนั้น ท่านจะไม่ได้รับบำเหน็จจากพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์”
(มธ. 6:1-6,16-18)

ความหมายของเถ้า

     เถ้าเป็นเครื่องหมายของ
“ความทุกข์ถึงบาป” เป็นธรรมเนียมที่ได้มาจากพระคัมภีร์ เราพบความหมายนี้อย่างชัดเจน ในคำ กล่าวประกอบการโรยเถ้าของพระสงฆ์แบบที่หนึ่ง ซึ่งนำมาจากพระวรสารของนักบุญมาระโก (มก. 1:15) ที่กล่าวว่า “จงกลับใจใช้โทษบาป และเชื่อพระวรสารเถิด”

    
เถ้ายังหมายถึงสภาพของมนุษย์คนบาป ซึ่งพยายามแสดงความสำนึกผิดของตนต่อพระเจ้าออกมาเป็นพิธีภายนอก ให้เห็นว่าเขาต้องการกลับใจ เพราะหวังว่าพระเจ้าจะทรงพระกรุณาให้อภัย เครื่องหมายประการนี้จึงเป็นการเริ่มเดินทางมุ่งสู่การกลับใจซึ่งค่อย ๆ พัฒนาขึ้นโดยการรับศีลอภัยบาปในเทศกาลมหาพรต ความต่ำต้อยของมนุษย์อันเป็นผลมาจากบาป ถูกกล่าวถึงในคำกล่าวประกอบ การโรยเถ้าของพระสงฆ์แบบที่สอง โดยเทียบจากหนังสือปฐมกาล (ปฐก. 3:19) ที่กล่าวว่า “มนุษย์เอ๋ย จงระลึกเถิดว่า เจ้าเป็นแค่ฝุ่นดิน และจะกลับเป็นฝุ่นดินอีก”

     ในบทเสกเถ้าทั้ง 2  แบบ ให้ความหมายอย่างชัดเจนว่า  เทศกาลมหาพรตเป็นช่วงเวลาที่
คริสตชนเตรียมสมโภชปัสกา เช่น
“ขอโปรดสดับฟังคำอ้อนวอนของข้าพเจ้าทั้งหลาย และทรง พระเมตตาประทานพระพรแก่ข้ารับใช้ของพระองค์ ผู้เข้ามารับการโรยเถ้าเหล่านี้ “ (บทภาวนาเสกเถ้าแบบที่ 1)

     เครื่องหมายการเป็นทุกข์กลับใจในพิธีกรรม
“พิธีเสกและโรยเถ้า” แสดงออกอย่างชัดเจนในช ีวิตคริสตชน เห็นได้จากการที่วันพุธรับเถ้าเป็นวันใช้โทษบาปสากลของพระศาสนจักร โดยคริสตชนผู้มีอายุตั้งแต่ 14 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปต้องอดเนื้อ และคริสตชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป จนถึงอายุ 59 ปีบริบูรณ์ ต้องอดอาหาร

    
เถ้ายังอาจหมายถึงความสกปรก (บาป) ซึ่งใช้น้ำชำระให้สะอาดได้ (ศีลล้างบาป) ฉะนั้น เราเริ่มเทศกาลมหาพรตด้วยพิธีโรยเถ้า จึงเป็นเครื่องหมายที่นำไปสู่ความสมบูรณ์ครบครันในการรื้อฟื้นคำมั่นสัญญาแห่งศีลล้างบาปของค ริสตชน และการล้างบาปคริสตชนใหม่ (ตามธรรมเนียมของพระศาสนจักร) ในคืนวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ (มิสซาตื่นเฝ้าปัสกา)
 
     สิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือ ธรรมเนียมที่ให้โรยเถ้าที่ได้จากใบลานซึ่งเสกในปีก่อนนั้น เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในศตวรรษที่ 12 มีความหมายดี เพราะ
ใบลานหมายถึงชัยชนะของพระเยซูเจ้าในฐานะกษัตริย์ในการเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่า (ภาพอนาคตของการกลับคืนชีพ) เมื่อเอามาเผาเป็นเถ้ าและโรยเพื่อเตือนใจให้คริสตชนใช้โทษบาปแล้ว ยังเป็นสิ่งที่บอกคริสตชนว่า การใช้โทษบาปนี้มีเป้าห มายเพื่อเตรียมการฉลองชัยชนะแห่งการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า

หน้าหลักหน้ารวมเปิดโลกคำสอน