หน้าหลักเกี่ยวกับคณะฯโรงเรียนของคณะฯติดต่อคณะฯ

บทนำ   ในเดือนมกราคมที่นี้   เรามีวันฉลองสำคัญวันหนึ่งสำหรับพระศาสนจักรในประเทศไทย คือ  วันฉลองบุญราศีนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง พระสงฆ์และมรณสักขี  ซึ่งตรงกับวันที่  12  มกราคมของทุกปี พ่อมีข้อคิดเล็กๆ น้อย ๆ ที่ได้รำพึงจากชีวิตของคุณพ่อนิโคลาส จึงขอแบ่งปันกับพี่น้องทุกท่าน ข้อมูลที่นำมาเขียน
บทความนี้ พ่อค้นคว้ามาจากงานเขียนของคุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์  คุณพ่อสุทศ ประมวลพร้อม  และคุณพ่อพงศ์เทพ ประมวลพร้อม จึงขอขอบคุณคุณพ่อทั้ง 3 ท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย

เราได้อะไรดี ๆ จากคุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง

    
1. เราทุกคนเป็นนักบุญได้ถ้าเรามุ่งมั่น พยายาม ไม่สำคัญว่าเราเป็นใคร แต่สิ่งที่สำคัญคือเราจะทำอย่างไร ถ้าเรามองดูชีวิตของคุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง คุณพ่อมีชีวิต ที่ไม่
แตกต่างจากเราในเรื่องของจุดกำเนิด  ท่านเกิดมาในครอบครัวคริสตชน รับศีลล้างบาป  เป็นเด็ก
นักเรียนคำสอน แม้เราจะขาดประวัติในวัยเด็กของคุณพ่อ แต่เชื่อว่าคุณพ่อคงได้รับการอบรมอย่างดีจากครอบครัว 
ครอบครัวดีเป็นบ่อเกิดของกระแสเรียก คุณพ่อได้เลือกกระแสเรียกการเป็นสงฆ์ ประเด็นของกระแสเรียกอะไรคง
ไม่สู้สำคัญ เท่ากับที่ว่าเราดำเนินชีวิตตามกระแสเรียกที่เราได้รับมอบหมายอย่างไร

     2. คุณพ่อนิโคลาสก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่อยู่ในโลกนี้และมีความบกพร่อง แต่ที่สำคัญคือ คุณพ่อมีน้ำใจที่จะแ ก้ไข “นักบุญไม่ใช่คนที่ทำผิดไม่เป็น แต่เป็นคนที่ทำผิดแล้วรู้จักแก้ไข”

          คุณพ่อยืสแตง ปาแยส  อธิการบ้านเณรที่ปีนังสมัยคุณพ่อนิโคลาสเป็นเป็นเณรใหญ่ได้เขียนถึงคุณพ่อดังนี้ “ชุนกิมทำให้ข้าพเจ้าไม่พอใจมาก ความประพฤติภายนอกของเขาดีมากแต่เขาเป็นคนอวดดีและข้าพเจ้า
เชื่อว่าเขาไม่มีการตัดสินที่ถูกต้อง วันหนึ่งด้วยความใจร้อนข้าพเจ้าเกรี้ยวกราดเขาด้วยความฉุนเฉียว และบอกให้เขารู้ถึงข้อบกพร่อง 4 อย่างของเขา  ข้าพเจ้ายังเสริมอีกว่า  ถ้าเขาไม่
เปลี่ยนแปลงนิสัยเขาจะไปไม่ถึงศักดิ์สงฆ์เลย เขาสัญญากับข้าพเจ้าว่าจะปรับปรุงตัวเองและขอร้องให้ข้าพเจ้าคอยตักเตือน ข้าพเจ้าหวังว่าเขาจะเปลี่ยนแปลง

     ในปีต่อมาอธิการเขียนว่า “ ชุนกิมทำได้ดี ยังคงค่อนข้างหัวดื้ออยู่บ้าง เขามีเจตนาดีไม่ถือตามความพอใจของตน และยังทำตามคำแนะนำที่เราให้เขา” และที่สุด “ชุนกิมปรับตัวดี
ขึ้น เขาเป็นคนศรัทธา เอาจริงเอาจัง และไม่กลัวการทำงาน เป็นคนค่อนข้างมักน้อย”

     มนุษย์ทุกคนอ่อนแอมีความบกพร่อง  ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์  ถ้ารอให้สมบูรณ์คงหาคนรับใช้พระได้ยาก  แ ต่
เราจะรับใช้พระแม้เราไม่สมบูรณ์และเราจะปรับปรุงตัว  แก้ไขข้อบกพร่องของเรา 
ความอ่อนแอทำให้เรารู้ว่าพระรักเรา  และให้
อภัยเรามาก ผู้ที่สำนึกว่าตนได้รับอภัยมากก็รักมาก

     3. คุณพ่อมีเป้าหมายในการทำงานทุกอย่างเพื่อพระจริง ๆ โดยไม่ถือเขาถือเรา คุณพ่อเป็นคนสุภาพ   การถือเขา ถือเรา การแบ่งพรรคแบ่งพวกเป็นเหมือนพิษร้ายที่ทำลายคำสอนเรื่องความเป็นหนึ่งเดียวของพระเยซูเจ้า   คุณพ่อใจกว้างสอน
คณะสงฆ์ซาเลเซียนที่บางนกแขวกเพื่อจะทำงานในสังฆมณฑลราชบุรี  โดยมีวัดบางนกแขวกเป็นศูนย์กลาง  คุณพ่อสอนภาษา
ไทยและร่วมงานกับคุณพ่อมิราแบลอย่างดี คุณพ่อคงต้องใช้ความสุภาพอย่างมาก
ข้อคิด
ถ้าเรายังไม่รักเพื่อนพี่น้อง แบ่งเขาแบ่งเรา เราจะสวดบทข้าแต่พระบิดาได้สนิทใจหรือ? พ่อ
เชื่อว่าคุณพ่อนิโคลาสสวดบทข้าแต่พระบิดาได้อย่างสบายใจมาก

     4. ความร้อนรนในการแพร่ธรรมของคุณพ่อนิโคลาส   ก่อนที่พระเยซูจะเสด็จขึ้น
สวรรค์พระองค์ทรงใช้ศิษย์ของพระองค์ให้ไปแพร่ธรรม  เราพบว่าคุณพ่อมีใจร้อนรนในการ
แพร่ธรรมอย่างมาก แม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบากต่างๆ แต่ที่น่าพิศวงก็คือ ในสถานที่ ๆ ลำบาก และไม่น่ามีหนทางจะแพร่ธรรมได้ คุณพ่อกลับทำให้นักโทษกลับใจได้ถึง 68 คน 
มันน่าคิดเพราะส่วนใหญ่เวลาเราลำบากเรามักท้อถอยหมดกำลังใจ แต่คุณพ่อกลับมีพลังใจ เราจะแพร่ธรรมได้ในทุก ๆ สถานการณ์ของชีวิตไหม?

     5. พลังของคุณพ่อนิโคลาสอยู่ที่ไหน? คำตอบอยู่ที่การภาวนา   คุณพ่อสวดภาวนาวอนขอความช่วยเหลือจากพระ
เสมอ จึงเป็นบทสอนแก่เราด้วยเช่นกันว่า
พลังในชีวิตของเรามาจากพระโดยผ่านทางการสวดภาวนา

     6. ท่าทีต่อความยากลำบากของคุณพ่อโดยยอมรับน้ำพระทัยของพระในชีวิตเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เรา เวลาที่คุณพ่ออยู่ในคุก คุณพ่อยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นน้ำพระทัยของพระ คุณพ่ออดทน ใ ห้อภัย ความยากลำบากเป็นการแบกกางเขนติดตามพระเยซูเจ้า เป็นการชดเชยใช้โทษบาปของเรา 
หลาย ๆ ครั้งเราอาจจะบอกว่าคำสอนของพระเยซูเจ้ายาก และเป็นไปไม่ได้ เช่น รักศัตรู แบกกางเขนติด ตามพระองค์ คุณพ่อนิโคลาสพิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า  ในสถานการณ์ที่ยากลำบากกว่าเราด้วยซ้ำว่าคำสอนของพระเยซูเจ้าเหล่านี้เป็นไปได้

     7. ในความลำบากคุณพ่อยังรักคนอื่น ส่วนหนึ่งที่ทำให้คำสอนของคุณพ่อเกิดผลและนำมาสู่การ กลับใจของนักโทษ 68 คน ก็คือ  ตลอดเวลาที่อยู่ในคุก คุณพ่อได้รับความลำบากมาก ห้องขังสกปรก คับแคบ ไม่มีอากาศถ่ายเท อยู่กันอย่างแออัด แต่คุณพ่อก็ไม่เคยบ่นถึงความลำบาก ..เ.มื่อมีคนมาเยี่ยม
และนำอาหารมาให้ ท่านก็แบ่งปันให้นักโทษคนอื่นๆ ด้วยความเมตตา
เมื่ออ่านถึงตอนนี้พ่อคิดถึงพระวรสารเรื่องการทำบุญของ หญิงหม้าย ไม่มีใครจนจนไม่สามารถให้อะไรกับคนอื่นได้

     8. คุณพ่อถูกจับเพราะความเข้าใจผิด คุณพ่อก่อสวดลิตานีอาแม่พระและสัตบุรุษรับว่า “ช่วยวิงวอนเพื่อข้าพเจ้าทั้งหลายนี้เถิด” แต่คนกลับไปรายงานต่อนายอำเภอและ
ตำรวจว่าคุณพ่อนำสัตบุรุษให้สวดว่า
“ขอให้ฝรั่งเศสชนะไทยนี้เถิด” ข้อคิด เราเคยถูก
เข้าใจผิดไหม?  และเรามีท่าทีอย่างไร  จะท้อแท้  หรือจะสู้ต่อไปเพื่อพระเหมือนคุณพ่อ

     9. เราเข้าใจความหมายของคำว่าสันติสุขผ่านทางคุณพ่อนิโคลาส แม้ไม่มีหล ักฐานเป็นจดหมายในช่วงปลาย ๆ เพราะเขาไม่ยอมให้ผ่านจดหมายอันเป็นกฎในคุกที่จะ
ตรวจจดหมายเข้าออกทุกฉบับ เราก็พอจะเข้าใจได้ว่า ความสงบเป็นวีรกรรมโดยแท้ของผู้ศ ักดิ์สิทธิ์ที่ยอมรับน้ำพระทัยของพระ ที่ขอจากเขาในกรณียาก ๆ เช่นนี้ โดยปกติคุณพ่อเป็นคนพูดและเขียนเสมอทั้งในคุกและ
นอกคุก แต่ในเวลาวิกฤตเช่นนั้นกลับเงียบงันเป็นพิเศษ   เรามาถึงจุดสำคัญของคุณพ่อนิโคลาส ผู้ประพฤติปฏิบัติชีวิตศักดิ์สิทธิ์
มาโดยตลอดเป็นระยะเวลายาวนานในชีวิต   ส่งให้บุคคลมีความพร้อมในระดับหนึ่งที่จะรับน้ำพระทัยของพระในท่ามกลางความ
หมดหวัง การถูกรังแกเบียดเบียนใส่ความ และเกลียดชังด้วยเรื่องศาสนาเป็นเหตุ อีกทั้งการให้อภัยต่อผู้กระทำต่อท่านและเงียบ
สงบในการถวายชีวิตเป็นพลีแด่พระที่ท่านรัก มรณสักขีและผู้ศักดิ์สิทธิ์ได้สอนเราว่า เครื่องบูชาที่มีชีวิตเมื่อตั้งใจจะถวายพระแล้ วต้องไม่มีตำหนิมลทินใด ๆ มาทำให้หมองแม้แต่นิดเดียว สิ่งที่อาจจะทำให้เครื่องบูชาและการบูชาชีวิตนี้หมองได้แก่ การบ่น การ
ไม่ยอมรับ ความไม่พอใจ  การส่งข่าวเพื่อขอความสงสารและขอความช่วยเหลือ  เหล่านี้ไม่มีอีกต่อไปในช่วงปลายของชีวิตใน
คุก
 
ต่อสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิต  เรามีท่าทีอย่างไร?  เรามีสันติ หรือ บ่น ขอความเห็นใจ ความสงบเป็นวีรกรรมโดยแท้ขอ งผู้
ศักดิ์สิทธิ์

     10. คุณพ่อนิโคลาสสอนเราถึงความสำเร็จที่แท้จริง คงมีคนเคยสงสัยว่า คุณพ่อนิโคลาส  ประสบความสำเร็จหรือล้ม
เหลว
? คำถามนี้คล้าย ๆ กับคำถามที่ว่า “คนทำดีแล้วได้ดีจริงหรือ?” เมื่อ 60 ปีที่แล้ว คำตอบนั้นแจ้งชัดแต่เราอาจจะยังไม่เห็นชัดเจน

     ดูเหมือนว่าในภายนอก คุณพ่อนิโคลาสตายอย่างผู้แพ้ด้วยวัณโรค ท่านตายอย่างสิ้นไร้ไม้ตอก เหมือนพระเยซู ทั้งตัวเหลือแค่สายประคำเก่า ๆ  ถูกฝังอย่างไร้เกียรติ จนผ่านไป 2 เดือ น จึงขุดศพของท่านไปฝังที่วัดอัสสัมชัญ  ดูเหมือนว่าคุณพ่อไม่มีผลงานเชิงวัตถุให้สัตบุรุษรุ่น
นั้นได้จดจำ จะมีเพียงก็แต่คำร่ำลือ ในความดี ในความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ดูเหมือนว่าในโล กนี้ท่านไม่ได้รับรางวัลอะไรเลย คุณพ่อได้สอนเราว่า แม้ได้ให้พระทั้งหมด  ก็ใช่ว่าพระจะเป็นหนี้
บุญคุณเรา  เราไม่สมควรเรียกร้องอะไรทั้งสิ้น  มีแต่ยอมรับน้ำพระทัยทุกประการจนสิ้นลม สิ้น
ลมไปแล้ว   คุณพ่อคงคิดว่าตัวเองเป็นหนี้พระอยู่ ยังใช้ไม่หมด  แต่พระผู้เป็นเจ้าผู้ไม่เคยเอา
เปรียบใคร ไม่เคยหันหลังให้กับคำภาวนาและยากที่จะเข้าใจได้นี้กลับคืนเกียรติให้กับคุณพ่อ 
ให้เราพิจารณาดูว่าหลังจากที่คุณ
พ่อได้สิ้นชีวิตไปแล้ว มีคนมากมายที่ได้รับพระพร มีความเชื่อความศรัทธาต่อพระอาศัยแบบอย่าง คำเสนออ้อนวอนของคุณพ่อ มันยิ่งใหญ่มาก ๆ ครับ ความซื่อสัตย์ต่อพระของคุณพ่อจนตลอดชีวิต

     11. คำสอนเรื่องพระศาสนจักรเป็นพระกายทิพย์ของพระเยซูเจ้า ดังนั้นเราจะเห็นว่า  กระบวนการแต่งตั้งนักบุญของ
พระศาสนจักร นอกจากคุณงามความดีของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนักบุญแล้ว พระศาสนจักรยังต้องการคำภาวนาและความ
เห็นของคริสตชน และในทางกลับกันการเสนอเรื่องคุณพ่อนิโคลาส เป็นนักบุญ
เป็นการกระทำเพื่อเพิ่มพระเกียรติมงคลแด่พระเจ้า และเป็นผลดีแก่จิตใจของคริสตชน

     12. ความเกลียดชังทำให้เกิดการเบียดเบียน การตอบแทนความชั่วด้วยความ
ชั่วมีแต่จะต่อสายป่านแห่งความทุกข์ให้ยาวขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ในสถานการณ์ที่ถูกเบียด
เบียน  คุณพ่อนิโคลาสเลือกที่จะรัก  และให้อภัย เลือกที่จะยืนหยัดในพระกระแสเรียกที่พระ
ประทานให้แก่ท่านอย่างซื่อสัตย์ที่สุด ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์เดียวกับคุณพ่อนิโคลาสเรายั งจะยืนหยัดในความเชื่อหรือไม่? เราจะตอบแทนความชั่วด้วยความดีหรือไม่?
 
    
13. การเป็นมรณสักขีคือการเป็นพยานถึงพระเยซูเจ้าด้วยชีวิต 49 ปีอาจเป็นเวลาสั้น ๆ ของมนุษย์บางคนที่กอบโกย ความสุขฝ่ายกายให้กับชีวิต และสุดท้ายก็ตายจากโลกนี้ไปอย่างไร้ค่า แต่ 49 ปี กลับเป็นเวลาอันยิ่งใหญ่และทำคุณประโยชน์มากมายแก่เพื่อนมนุษย์และพระศาสนจักรแบบที่คุณพ่อนิโคลาสได้ให้ตัวอย่างแก่เรา เราจะเลือกใช้วันเวลาในชีวิตของเราแบบไหน?

    
14. เราเคารพและให้เกียรติแก่บรรดานักบุญ เพราะชีวิตของท่านได้ร่วมส่วนในธรรมล้ำลึกปัสกาของพระเยซูเจ้า แบบฉบับชีวิตของท่านเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เรา และท่านอยู่บนสวรรค์และกำลังสวดภาวนาเพื่อเรา ขอคัดข้อความจากจดหมายของสังฆราชแปรอสถึงคุณพ่อเบรสซอง “พว กเราได้สูญเสียคุณพ่อบนแผ่นดินนี้ แต่ข้าพเจ้ามีความหวังว่า คุณพ่อคอยช่วยเหลือพวกเราอยู่บนสวรรค์” ดังนั้นจึงเป็นการดีที่คริสตชนทุกคนนอกจากจะเลียนแบบคุณงามความดีในชีวิตของบุญราศีนิโคลา ส บุญเกิด กฤษบำรุงแล้ว เรายังสามารถสวดภาวนาวอนขอพระพรจากพระเยซูเจ้า โดยผ่านทางคำเสนอวิงวอนของท่านได้ด้วยเช่นกัน

บทสรุป
“ข้าพเจ้าได้ต่อสู้อย่างเต็มกำลัง ข้าพเจ้าได้แข่งขันจนถึงที่สุด  ข้าพเจ้าได้รักษาความเชื่ อไว้
แล้ว ต่อแต่นี้ไป  มงกุฎแห่งความชอบธรรมจะเป็นของข้าพเจ้า ซึ่งองค์พระผู้พิพากษาอันชอบธรรมจะ
ทรงประทานเป็นรางวัลแก่ข้าพเจ้าในวันนั้น และมิใช่แก่ข้าพเจ้าผู้เดียวเท่านั้น แต่จะทรงประทานแก่คนทั้งปวงที่ยินดีในการเสด็ จมาของพระองค์”
(2ทิโมธี 4:1-2) เมื่อเราอยู่ต่อหน้าพระเจ้าในวันสุดท้ายของชีวิตเราจะพูดได้อย่างที่นักบุญเปาโลพูดข้างต้น
ไหม? และเราจะเป็นลูกที่รักและสัตย์ซื่อต่อพระองค์เหมือนคุณพ่อนิโคลาสหรือเปล่า?

หน้าหลักหน้ารวมเปิดโลกคำสอน