...วันฉลองของบรรดานักบุญ
เป็นการป่าวประกาศกิจการน่าพิศวง ที่พระคริสตเจ้าทรงกระทำ ในตัวข้าบริการของพระองค์ และเป็นการหยิบยื่นแบบฉบับที่เหมาะสม ให้สัตบุรุษได้เอาเยี่ยงอย่าง...
ตั้งแต่แรกพระคัมภีร์ได้สงวนนามนี้ นักบุญ หรือ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ ไว้สำหรับพระยาเวห์หรือองค์พระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงผู้เดียว เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นองค์ความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง (ปฐก 28:10-19; 1 ซมอ 6:13-21; 2 ซมอ 6:1-10) มนุษย์ไม่สามารถจะทำอะไรอย่างอื่นได้นอกจากกราบไหว้นมัสการและยำเกรงพระองค์ (อพย 3:1-6; ปฐก 15:12)
ในศาสนาที่สามารถช่วยให้รอดพ้นได้เช่นของพวกอิสราแอล เป็นพระเจ้าเองซึ่งเป็นผู้ประทานความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ให้แก่ประชากรของพระองค์ (อสย 12:6-29; 19-23;30: 11-15;31:1-3) ซึ่งตัวเขาเองก็จะกลายเป็น พระเจ้าอีกผู้หนึ่ง โดยเขาจะประพฤติตนแตกต่างไปจากชนชาติอื่นๆ โด
ยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเจริญชีวิตประจำวันของพวกเขาและจากการแสดงออกของพวกเขาโดยทางจารีตพิธีกรรมต่างๆ (ลนต19:1-37;21:1-23 ; วว 4:1-11) แต่ว่าเพื่อ
จะสามารถบันดาลให้ความศักดิ์สิทธิ์ที่ว่านี้บรรลุผลสำเร็จตามที่พระเจ้าได้ทรงเรียกพวกเขามายังความศักดิ์สิทธิ์นี้นั้น ประชากรผู้ได้รับเลือกสรรไม่มีวิธีการอะไรอย่างอ
ื่นนอกจากการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับต่างๆและการปฏิบัติการชำระล้างให้สะอาดหมดจดปราศจากมลทินทางด้านภายนอกเท่านั้น ไม่ช้าไม่นาน พวกเขาได้มีจิตสำนึกถ
ึงความไม่เพียงพอของวิธีการต่างๆเหล่านี้ พวกเขาจึงได้เจาะจงแสวงหาวิธีการใหม่ที่จะสามารถช่วยพวกเขาให้ได้มีส่วนในชีวิตของพระผู้เป็นเจ้า วิธีการใหม่นี้ก็คือ หัวใจที่สะอาดบริสุทธิ์ (อสย 6:1-7; สดด 14; อสค 36: 17-32; 1 ปต 1:14-16) พวกเขาได้ตั้งความหวังไว้ว่าความศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาจะได้รับนั้นต้องมาจากพระผ
ู้เป็นเจ้าโดยตรง (อสค 36: 23-28)
ความหวังหรือความปรารถนานี้ได้สำเร็จหรือได้เป็นจริงเป็นจังขึ้นมาในองค์พระคริสตเจ้า ในตัวพระองค์เอง ความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าได้ทรงฉายแสงออกมาให้ปรากฎในตัวพระองค์ และ พระจิตแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ทรงสถิตอยู่ในพระองค์ พระองค์ได้ทรงรับ
ตำแหน่ง องค์ความศักดิ์สิทธิ์ (ยน 3:1-5; 1 คร 3:16-17; กท 5:16-25; รม 8: 9-14) และอันที่จริงพระองค์เสด็จมาในโลกนี้ก็เพื่อจ
ะช่วยมนุษยชาติได้กลายเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์
พระเยซูได้ทรงถ่ายทอดความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์นี้ให้แก่มนุษย์ (มธ 13: 24-30; 25: 2; คส 1:22; 2 คร 1:12)
ในศตวรรษแรกๆของพระศาสนจักร คำสอนเรื่องนี้มีชีวิตชีวามากจนว่าบรรดาสมาชิกของพระศาสนจักรในเวลานั้นไม่ได้ลังเลใจที่จะเรียกตัวเองว่า นักบุญ เลย (2 คร 11-12; รม 15: 26-31 ; อฟ3: 5-8; 4:12) และพระศาสนจักรเอง
ก็ถูกเรียกว่า สหพันธ์นักบุญ สำนวนนี้เรายังจะพบได้อีกในบท ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระผู้เป็นเจ้า ซั่งมีต้นกำเนิดจากกลุ่มคริสตชนที่มาร่วมถวายบูชามิสซาและมีส่วนร่วมใน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงกลายเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์หรือ นักบุญ ดังนั้น ความศักดิ์สิทธิ์หรือความเป็นนักบุญของคริสตชนจึงอยู่ที่การมีส่วนร่วมในชีวิต
ของพระเจ้าโดยอาศัยวิธีการต่างๆ ของพระศาสนจักรเป็นต้นโดยทางศีลศํกดิ์สิทธิ์
ความศักดิ์สิทธิ์นี้มิใช่เกิดจากความพยายามของมนุษย์ที่พยายามจะไปให้ถึงพระเจ้าโดยอาศัยกำลัง
ของตนเอง แม้จะประกอบกิจกรรมขั้นวีรกรรมก็ตาม แต่ว่าความศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นของประทานของพระเจ้าที่ให้เปล่า นอกนั้นยังเป็นการตอบสนองของมนุษย์ต่อการเริ่มต้นอันนี้ของพระเจ้าอีกด้วย
ถ้าหากการเป็น นักบุญ เป็นการลอกเลียนแบบพระเยซูเจ้าพระองค์จึงได้รับการสร้างรูปแบบขึ้นใหม่
ในทรรศนะที่แตกต่างกันออกไปในบรรดานักบุญของพระองค์ นักบุญแต่ละองค์จึงมีชีวิตที่ไม่เหมือนกัน ต่างองค์ต่างก็มีอะไรที่เด่นอันเป็นคุณลักษณะเฉพาะของท่าน
ในคริสตศาสนาคาทอลิก นักบุญมีทั้งชายและหญิงหลายรูปแบบด้วยกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของท่าน เช่น อัครสาวก ผู้นิพน
ธ์พระวรสาร มรณสักขี/มารตีร์ จิตตาภิบาล(พระสันตะปา พระสังฆราช พระสงฆ์ สังฆานุกร) นักปราชญ์ พรหมจารี นักบวชชายหญิง นักบุญชายหญิงทั่วๆไป(กษัตริย์ ราชินี แม่ม่าย ฯลฯ) ฯลฯ
ทุกๆท่านที่กำลังเสวยความบรมสุขอยู่ในเมืองสวรรค์ ก็ควรได้ชื่อว่าเป็น นักบุญ แม้ว่าจะไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากพระศาสนจักรคาทอลิก แต่บรรดานักบุญ ก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการนั้น ต้องได้รับการแต่งตั้งให้ บุญราศรี (Blessed/Beatus) เสียก่อน
...มีคริสตชนจำนวนไม่น้อยที่มีความคิดอย่างผิดๆ ว่า นักบุญคือคนที่ไม่เคยทำบาปเลยหรือทำบาปไม่เป็น...เป็นคนที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณธรรมต่างๆ หรือพูดง่ายๆว่าเกิดมาก็เป็นนักบุญเป็นคนดีแล้ว
จริงๆ แล้วบรรดานักบุญทั้งหลายนั้นก็มีอวัยวะหรือส่วนประกอบต่างๆ ทั้งทางร่างกาย
และทางจิตใจเหมือนกับมนุษย์คนอื่นๆ มีทั้งข้อบกพร่อง ข้อตำหนิเหมือนๆกัน อาจจะมากน้อยไม่เหมือนกัน เพียงแต่ว่าข้อตำหนิและข้อบกพร่องต่างๆเหล่านี้ในตัวของนักบุญจะค่อยๆไ
ด้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นอะไรบางอย่างที่ดีขึ้นหรือกลายเป็นคุณธรรมความดี นักบุญต่างๆเหล่านั้น ในเวลาที่ท่านมีชีวิตอยู่ ก็ไม่ได้มีชีวิตที่ง่ายๆกว่าพวกเราเลย หลายๆท่านมีชีว
ิตที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนมากกว่าพวกเรามากนักในแทบทุกเรื่อง นักบุญที่ทำการต่อสู้กับการประจญ รู้จักพลังอำนาจของการประจญมากกว่าค
นบาปซึ่งยอมแพ้ต่อการผจญอย่างง่ายๆตั้งแต่ยกแรก ท่านเหล่านั้นได้กลายเป็นนักบุญด้วยการเลือกทำในสิ่งดีและถูกต้องด้วยจิตใจที่แ
น่วแน่มั่นคง เช่น นักบุญเปาโล นักบุญออกัสติน แห่งฮิปโป นักบุญฟรังซิส อัสซีซี และนักบุญอิกญาซีโอ แห่งโลโยลา ดังนี้เป็นต้น
ให้เราได้ร่วมชื่นชมยินดี
ทำการสมโภชนักบุญทั้งหลาย ให้ท่านได้ช่วยอ้อนวอนพระเจ้า ทรงประทานความช่วยเหลือ ที่เราปรารถนาจะได้รับด้วยเถิด
|