เมือง อะวิญอง (Avignon) ในประเทศฝรั่งเศส ได้กลายเป็นที่ประทับของพระสันตะปาปาหลายพระองค์ แทนที่ กรุงโรม ในประเทศอิตาลี ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 1309 จนถึงวันที่ 13 มกราคม 1377 เป็นเวลาประมาณ 70 ปีด้วยกัน
จึงทำให้ที่ประทับของพระสันตะปาปานี้ ได้รับการขนานนามว่า Palais des Papes หรือ พระราชวังของพระสันตะปาปา
เมืองอะวิญอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระราชวังของพระสันตะปาปานั้น ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ
พระเทศฝรั่งเศส บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโรน
พระราชวังของพระสันตะปาปาเป็นพระราชวังประวัติศาสตร์ เป็นกลุ่มอาคารแบบศิลปะโกธิค ที่ใหญ่ที่
สุดและที่สำคัญที่สุดของสมัยกลางในทวีปยุโรป
เมื่อปี ค.ศ. 1995 พระราชวังของพระสันตะปาปานี้ ได้รับการจัดหมวดหมู่ให้เข้าอยู่ในศูนย์กลางทาง
ประวัติศาสตร์ของเมืองอะวิญอง และได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้วย
ประวัติศาสตร์
การที่เมืองอะวิญองได้กลายเป็นที่ประทับของพระสันตะปาปาโดยได้ย้ายจากกรุงโรมไปอยู่ที่เมืองอะวิญอง ก็ด้วย
เหตุผลหลายประการด้วยกัน ทั้งด้วยเหตุผลทางประวัติศาสตร์ หรือ ด้วยเหตุผลส่วนตัว เช่น ปัญหาทางสุขภาพ หรือ ด้วย เหตุผลทางการเมือง ซึ่งได้ตั้งเค้าตั้งแต่ในห้วงเวลาแห่งสมณสมัยของพระสันตะปาปาบอนิฟาส ที่ 6 (1294-1303) พระ
องค์ต้องทนทุกข์ยากลำบาก เพราะได้เกิดการแตกแยกขึ้นมาในพระศาสน จักรอันก่อให้เกิดศัตรูภายนอกจากบางประเทศซึ่งได้สร้างความกดดันให้กับพระองค์ และจากภายในอันเกิดจากคณะพระคาร์ดินัลที่มีความคิดเห็นไม่ลงรอยกัน พระสันตะปาปาองค์ต่อมา คือ พระสันตะปาปาเบเนดิกท์ ที่ 11 (1303-1304) ซึ่งอยู่ในพระสมณสมัยสั้นๆ ก็ไม่ได้ช่วยให้สถาน
การณ์ของพระศาสนจักรในขณะนั้นดีขึ้นเล ย ดังนั้นในปี 1309 เมื่อพระสันตะปาปาเคลเมนท์ ที่ 5 (1305-1314) ไม่มีพระประสงค์ที่จะเผชิญหน้ากับความยุ่งเหยิงที่รุนแรงที่กรุงโรมหลังจากที่พระองค์ได้ทรงรับเลือกให้เป็นพระสันตะปาปาใน
ปี 1305 ดังนั้น พระองค์ได้ทรงย้ายคณะกรรมการบริหารของพระสันตะปาปาไปอยู่ที่เมืองอะวิญอง นี่เป็นช่วงเวลาที่เรียกว่า สมณสมัยพระสันตะปาปาที่เมืองอ ะวิญอง (Avignon Papacy) ในเบื้องต้น พระสันตะปาปาเคลเมนท์ ที่ 5 ได้ทรงพำนักเป็นอาคันตุกะในอารามของคณะนักบวชโดมินิกันที่เมืองอะวิญอง ต่อมา พระสันตะปาปายอห์น ที่ 22 (1316-1334) ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระองค์ ก็ได้เริ่มก่อ
สร้างที่ประทับอันใหญ่โตมโหฬารที่นี่ แต่ว่าการปฏิสังขรณ์ใหม่ของพระราชวังเก่าของพระสังฆราชแห่งเมืองอะวิญองได้เริ่มทำกันอย่างจริงจังก็ในสมณสมัยของพระสันตะปาปาเบเนดิกท์ ที่ 12 (1334-1342) และได้รับการสานต่อจากพระสันตะปาปาอีก 3 พระองค์ต่อมาจนถึงปี 1364 คือพร
ะสันตะปาปาเคลเมนท์ ที่ 6 (1342-1352) พระสันตะปาปาอินโนเซนท์ ที่ 6 (1352-131362) และพระสันตะปาปาอูรบัน ที่ 5 (1362-1370) ที่ตั้งของพระราชวังอยู่บนเนินหินผาธรรมชาติ ณ ปลายขอบของเมืองอะวิญอง ซึ่งถ้าหากมองลงไปเบื้องล่าง ก็จะแลเห็นแม่น้ำโรน พระราชวังที่กล่าว
นี้เป็นพระราชวังเก่าของพระสังฆราชแห่งเมืองอะวิญอง พระราชวังถูกสร้างเป็น 2 ส่วนด้วยกัน อันเป็นที่รู้จักกันดีในลักษณะของพระราชวังเ
ก่า และพระราชวังใหม่ พระราชวังของพระสันตะปาปาครอบคลุมเนื้อที่ 11,000 ตารางเมตร หรือ 2.6 เอเคอร์ ค่าใช้ จ่ายสำหรับก่อสร้างพระราชวังน ี้เป็นจำนวนเงินมหาศาลซึ่งได้ใช้จ่ายจากเงินรายได้จำนวนมากของสันตะสำนักระหว่างการก่อสร้าง
พระราชวังเก่าได้ถูกสร้างขึ้นในสมณสมัยของพระสันตะปาปาเบเนดิกท์ ที่ 12 โดยได้รื้อพระราชวังเก่าของพระสังฆราชแห่งเมืองอะวิญองท
ิ้งเสีย และได้สร้างอาคารใหม่ที่ใหญ่โตมโหฬารมากขึ้น ขึ้นมาแทน โดยมีศูนย์กลางอยู่บนเขตพรต และได้รับการเสริมสร้างให้แข็งแรงสำหรับป้องกันจากผู้บุกรุกโจมตี โดยได้สร้างหอคอยสูงไว้ที่แต่ละปีกของพระราชวัง
ภายใต้สมณสมัยของพระสันตะปาปาเคลเมนท์ ที่ 6 พระสันตะปาปาอินโนเซนท์ ที่ 6 และพระสันตะปาปาอูรบัน ที่ 5 อาคารได้รับการขยายให้กว้างขวางออกไปอีกตามที่เรารู้จักเรียกขานว่าเป็น พระราชวังใหม่ (Palais Neuf) พระสันตะปาปาเคลเมนท์ ที่ 6 ได้ทรงมอบหมายให้ Jean de Louvres ให้สร้างหอคอยใหม่ขึ้นและอาคารที่เชื่อมต่ออื่นๆอีก รวมทั้งวัดน้อยขนาดใหญ่ (Grand Chapel) ซึ่งมีความยาว 52 เมตรเพ
ื่อใช้เป็นสักการสถานสำหรับพระสันตะปาปาในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หอคอยอีก 2 แห่งได้ถูกสร้างขึ้นในสมณสมัยของพระสันตะปาปาอินโนเซนท์ ที่ 6 ส่วนพระสันตะปาปาอูรบัน ที่ 5 ได้ทำการปรับปรุงขยา
ยลานเอกที่มีอาคารต่างๆรายล้อม ลานเอกนี้มีชื่อว่า Court dHonneur ส่วนภายในของอาคารต่างๆในพร
ะราชวังได้รับการตกแต่ง ด้วยภาพสีเฟรสโกที่สวยสดงดงาม พรม รูปวาด รูปแกะสลักและเพดานที่ทำด้วยไม้อย่างดี
ต่อมาในปี 1377พระสันตะปาปาได้ทรงเสด็จกลับจากเมืองอะวิญองสู่กรุงโรม แต่นี่ก็ได้เป็น สาเหตุ
ประการหนึ่งที่ก่อให้เกิดการแตกแยกระหว่างพระสันตะปาปาด้วยกัน คือในห้วงเวลานี้ได้มีผู้ต่อต้านพระสันตะปาปา (anti-popes) 2 พระองค์ด้วยกันคือ พระสันตะปาปาเคลเมนท์ ที่ 7 (1378-1394) และพระสันตะปาปาเบเนดิกท์ ที่ 13 (1394-1423) ซึ่งได้พำนักอยู่ที่เมืองอะวิญอง จนถึงปี 1403 พระสันตะปาปาองค์สุดท้ายได้ทรงถูกกักขังบริเวณในพระราชวังเป็นเวลา 5 ปีด้วยกันหลังจากที่กองทัพของ Geoffrey Boucicaut ได้เข้าทำการยึดครองเมืองอะวิญองในปี 1398แต่ว่าตัวอาคารยังคงอยู่ในการยึดครองของกองกำลังผู้ต่อต้าน-
พระสันตะปา (anti-popes)เป็นเวลาอีกหลายปีด้วยกัน แต่ก็ถูกล้อมไว้ในปี 1410-1411 ที่สุดก็ได้กลับคืนไปอยู่ภายใต้การดูแลของผู้แทนพระสันตะปาปาที่กรุงโรมในปี 1433
แม้ว่าพระราชวังจะอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของพระสันตะปาปาเป็นเวลามากกว่า 350 ปี แต่ตัวพระราชวังเองก็ค่อยๆเสื่อมโทรมลง และ แม้จะได้รับการปฏิสังขรณ์ในปี 1516 ก็ตาม เมื่อการปฏิวัติฝรั่งได้ปะทุขึ้นในปี 1789 พระราชวังก็กำลังอยู่ในสภาพท
ี่แย่มากๆ เมื่อมันถูกล้อมและถูกปล้นสะดมภ์จากกองกำลังของคณะปฏิวัติ และในปี 1791 ก็ได้เกิดภาพของการสังหารหมู่ ของกลุ่มผู้ต่อต้านคณะปฏิวัติ ศพของพวกที่ถูกสังหารถูกโยนเข้าไปในหอคอย Tour des Latrines ในพระราชวังเก่า
ต่อมาพระราชวังได้ถูกยึดโดยกองกำลังของจักรพรรดินโปเลียน เพื่อใช้เป็นค่ายทหาร และคุกสำหรับคุมขังนัก
โทษ แม้ว่าพระราชวังจะได้รับความเสียหายจากการยึดครองของพวกทหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้การปกครองของสาธารณรัฐรุ่นที่ 3 ที่ต่อต้านพวกนักบวช บางส่วนก็ถูกดัดแปลงให้เป็นคอกเลี้ยงม้า พวกรูปวาดเฟรสโกก็ได้ถูกทำลาย ไปเ
สียส่วนใหญ่ และในปี 1906 พระราชวังแห่งนี้ก็ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไป โดยค่อยๆได้รับการบูรณะฟื้นฟูขึ้นมาเสียใหม่
ในขณะนี้ พระราชวังส่วนใหญ่ได้เปิดให้สาธารณะชนสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้
พระสันตะปาปาที่เมืองอะวิญอง
ในปี 1309 เมืองอะวิญองซึ่งในขณะนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร อาร์ลส์ (Arles) ประเทศฝรั่งเศส พระสันตะปาปาเคลเมนท์ ที่ 5
ได้ทรงเลือกให้เป็นที่ประทับของพระองค์ และจากวันที่ 9 มีนาคม 1309 จนถึงวัน ที่ 13 มกราคม 1377 ก็ได้กลายเป็นที่ประทับของพระสันตะปา
ปาหลายพระองค์ด้วยกันแทนที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี และนี่ก็ได้กลายเป็นสาเหตุประการหนึ่งของการแตกแยกในพระศาสนจักรคาทอลิก
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 1348 พระราชินีโยอันนา ที่ 1 แห่งซิซิลี ซึ่งขณะนั้นดำรงพระยศเป็น เคานท์เทสแห่งโปร วองส์ ได้ขายเมืองอะวิญองให้กับพระสันตะปาปาเคลเมนท์ ที่ 6 เป็นเงิน 80,000 ฟลอรินซึ่งเป็นจำ นวนเงินประมาณ
24,000 เปานด์อังกฤษ จากนั้นเมืองอะวิญองก็ได้กลายเป็นทรัพย์สินของพระสันตะปาปาจนถึงปี 1791 และ ในช่วงที่เกิดการปฏิวัติใหญ่ของฝรั่งเศส ก็ได้ถูกผนวกให้กลับมาเป็นของฝรั่งเศส แต่ว่าเวลานี้ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติไป
แล้ว
พระสันตะปาปา 7 พระองค์ที่เมืองอะวิญอง
1. พระสันตะปาปาเคลเมนท์ ที่ 5 (1305-1314)
2. พระสันตะปาปายอห์น ที่ 22 (1316-1334) 3. พระสันตะปาปาเบเนดิกท์ ที่ 12 (1334-1342)
4. พระสันตะปาปาเคลเมนท์ ที่ 6 (1342-1352) 5. พระสันตะปาปาอินโนเซนท์ ที่ 6 (1352-1362)
6. พระสันตะปาปาอูรบัน ที่ 5 (1362-1370) 7. พระสันตะปาปาเกรโกรี่ ที่ 11 (1370-1378)
ในช่วงระยะเวลานี้ จากปี 1309-1377 ที่พระสันตะปาปาทรงประทับอยู่ที่เมืองอะวิญอง ก็มักจะได้รับการกล่าวขานว่าเป็น การถูกเนรเทศไปเป็นเชลยที่กรุงบาบีโลน เหมือนกับชนชาวอิสราแอลในสมัยของพระธรรมเก่า
เมืองอะวิญองในยุคต้นศตวรรษที่ 14 เป็นเพียงแต่เมืองที่ไม่สู้มีความสำคัญมาก นัก ได้รั
บการบูรณะพัฒนาอย่างกว้างขวางในสมณสมัยของพระสันตะปาปา 7 พระองค์และอีก 2 ผู้ต่อต้าน-พระสันตะปาปา (anti-popes) คือเคลเมนท์ ที่ 7 (1378-1394) และเบเนดิกท์ ที่ 13 (1394-1423) ภาพวาดเฟรสโกภายในพระราชวังของพระสันตะปาปา ส่วนใหญ่แล้วเป็นภาพวาด ของศิลปินจากเมืองเซียนา ประเทศอิตาลี และในห้วงเวลานี้เมืองอะวิญองได้กลายเป็นศูนย์กลาย
การค้าและธุรกิจ มีทั้งธนาคารและมหาวิทยาลัยซึ่งพระสันตะปาปาบอนิฟาส ที่ 8 ได้ทรงตั้งขึ้นในปี 1303
ในห้วงเวลาระหว่างการแตกแยกครั้งใหญ่ ปี 1378-1415 ผู้ต่อต้านพระสันตะปาปา (anti-popes) เคลเมนท์ ที่ 7 และเบเนดิกท์ ที่ 13 ได้กลับเข้ามาพำนักที่เมืองอะวิญองอีก เคลเมนท์ที่ 7 ได้พำนักอยู่ที่เมืองอะวิญองตลอดสมณสมัยของพระองค์ ส่วนเบเนดิกท์ ที่ 13 ได้ทรงพำ
นักที่นี่จนถึงปี 1403 เพราะว่าหลังจากนั้นพระองค์ทรงถูกบีบบังคับให้เสด็จหนีไปยังเมืองอะรากอน (Aragon)
สรุป
อันที่จริง พระสันตะปาปาแทบทุกพระองค์ที่เมืองอะวิญองต่างก็มีความคิดที่จะกลับไปพำนัก ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี แต่ด้วยเหตุผลและอุปสรรคบางประการทำให้ความตั้งใจนี้ เกิดขัดข้องขึ้นมา จนไม่สามารถย้
ายกลับไปกรุงโรมได้ เมืองอะวิญองนอกจากจะเป็นที่ประทับของพระสันตะปาปาหลายพระองค์ด้วยกัน ก็ยังเ
ป็นสถานที่จัดให้มีการประชุมสภาสังคายนาของพระศาสนจักรอีกสิบกว่าครั้งด้วยโดยเริ่มเป็นครั้งแรกเมื่อปี
1060 เรื่อยมาจนกระทั่งถึงปี 1849 นอกนั้นก็ยังมีมหาวิทยาลั ยแห่งเมืองอะวิญองซึ่งได้ตั้งขึ้นในปี 1303 โดยพระสันตะปาปาบอนิฟาส ที่ 8 อีกด้วย
|