1.ก่อนหน้าปี ค.ศ. 350 ไม่เคยมีใครในโลกรู้จักวันคริสต์มาส หรือจัดงานเฉลิมฉลองในวันนี้มาก่อนเลย

2.ก่อนที่ประเพณีการแขวนถุงเท้าไว้ที่เตาผิงจะแพร่หลาย   เด็กๆ ชาวดัตช์จะแขวนรองเท้าไ ว้ที่เตาผิงในวันก่อนวันคริสต์มาส หรือวันคริสต์มาสอีฟกันมาตั้งนานแล้ว  ก่อนที่ชาวโลกจะเปลี่ยนมาใช้ถุงเท้าในเวลาต่อมา

3.ไม่เพียงแต่ไก่งวงเท่านั้นที่เป็นเมนูสุดฮิตในช่วงคริสต์มาส แต่เนื้อห่านก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน

4.เพลงประจำเทศกาลคริสต์มาสที่มีชื่อเสียงดังอย่าง Silent Night แต่งขึ้นในปี 1818 โดย Joseph Mohr  บาทหลวงชาวออสเตรีย ทั้งๆที่ในตอนนั้น ออร์แกนในโบสถ์กำลังชำรุด

5.ตัวอักษร X  ในคำว่า X-mas  มาจากอักษรกรีก “chi” ซึ่งเป็นอักษรตัวแรกของคำว่า “Christos” ที่แปลว่า “พระคริสต์” นั่นเอง

6.ครั้งหนึ่ง บาทหลวงชาวออสเตรเลียพากันรณรงค์ให้ใช้คำว่า “Happy Christmas” แทนคำว่า “Merry Christmas” เพราะ  Merry นั้นหมายถึง การรื่นเริงจากการดื่มของมึนเมา

7.เพลง “White Christmas” ของ  Bing  Crosby  คือบทเพลงคริสต์มาสที่มียอดขายมากที่สุดในโลกตลอดกาล

8.กวีนาม Clark  Moore ได้รับเครดิตว่าเป็นผู้ตั้งชื่อให้กับกวางเรนเดียร์ของซานตาคลอส  ไม่ว่าจ ะเป็น  Blitzen, Comet, Cupid,Dancer,     Dasher, Doneder, Prancer  และกวางที่มีชื่อเสียงที่สุดอย่าง Rudolph

9.สีแดง - ขาว  บนชุดซานตาคลอส  เป็นผลงานสร้างสรรค์ของศิลปินชื่อ  Haddon  Sundblom  เขา คือผู้ทำหน้าที่ออกแบบซานต้าในรูปโฉมใหม่ให้กับบริษัทนำอัดลม โคคาโคล่า  โดยซานต้าต้นฉบับนั้นมี Thomas Nast เป็นผู้ออกแบบ

10.รัฐสภาอังกฤษเคยประกาศกฎหมายสั่งห้ามฉลองวันคริสต์มาสมาแล้วในปี 1647 ใครก็ตามที่จัดงานเฉลิมฉลองจะถูกจับกุม และกว่าที่ชาวอังกฤษจะได้รื่นเริงกับวันคริสต์มาสอีกครั้ง  ก็ต้องรอกันถึงอีก 13 ปีเลยทีเดียว

11.การ์ดอวยพรวันคริสต์มาสใบแรก ออกแบบโดย  John  Horsley ในปี 1840 แต่กว่าจะได้วางขายครั้งแรกก็ต้องรออีก  3 ปีต่อมา ซึ่งก็ถือว่าคุ้มค่า  เพราะการ์ดของเขาวางจำหน่ายได้เป็นจำนวนมากในกรุงลอนดอน

12.Franklin  Pierce  คือประธานาธิบดีสหรัฐคนแรก ที่นำต้นคริสต์มาสไปประดับตกแต่งไว้ในทำเนียบขาว เมื่อปี 1856

13.ปี  1882  หรือเพียง 3 ปีหลังจากที่เอดิสันประดิษฐ์หลอดไฟสำเร็จ Edward Johnson ผู้ช่วยของเขาก็นำหลอดไฟฟ้าไ ปประดับ ตกแต่งต้นคริสต์มาส จนต่อมาได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก

14.ปี  1895  Ralph Morris พนักงานโทรศัพท์ ได้คิดค้นหลอดไฟประดับต้นคริสต์มาสแบบสายขึ้นมา (หลอดไฟกระพริบที่ นิยมใช้พันรอบ    ต้นคริสต์มาสนั่นเอง)  โดยหลอดไฟกะพริบเหล่านี้ แรกเริ่มเดิมทีถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้กับตู้ชุมสายโทรศัพท์โบราณ  Morris ไปเห็นเข้าก็เกิดความคิดว่า น่าจะนำมาใช้ตกแต่งต้นคริสต์มาสได้อย่างสวยงาม

15.เพลงคริสต์มาสยอดนิยมอย่าง “Jingle Bells” แต่งขึ้นมาในปี 1857 โดย  James Pierpont เพลงนี้เคยมีชื่อเดิมว่า  “One - Horse       Open  Sleigh” และแต่งขึ้นมาเพื่อใช้ในวันขอบคุณพระเจ้า  ไม่ใช่สำหรับวันคริสต์มาส

16.ในแต่ละปีมีการผลิตต้นคริสต์มาสออกมาถึง 34-36 ล้านต้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้คนทั่วโลก