การรำพึงไตร่ตรองพระสมณสาสน์ เรื่องการสวดสายประคำ (Rosarium Virginis Mariae) มีหลายประเด็นที่น่าจะนำมาไตรตรองเรื่องงานธรรมทูตของเราคริสตชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเดือนแม่พระและเป็นเดือนแห่งการแพร่ธรรมสากล พระสมณสาสน์ฉบับนี้ได้เปิดจิตใจของคริสตชนให้ก้าวสู่มิติที่เป็นสากลมากขึ้น เพื่อให้พระธรรมล้ำลึ
กแห่งชีวิตขององค์พระคริสตเจ้า ได้เผยแสดงแก่โลกและฉายแสงบนใบหน้าของประชากรพระเจ้า ผู้ได้รับการนำพาให้เพ่งพินิจพระพักตร์อันงดงามของพระคริสตเจ้าและสัมผัสกับความรักอันลึกซึ้งของพระองค์ (เรื่องการสวดสายปร
ะคำ ข้อ ๑) อันที่จริงการสวดสายประคำ จะต้องเข้าถึงแก่นแท้ของชีวิตคริสตชน เพราะการสวดสายประคำเป็นโอกาสที่จะทำการเพ่งพินิจดูพระธรรมล้ำลึกต่างๆเป็นการส่วนตัว ซึ่งมีผลอย่างมากทางด้านจิตใจและเป็นการอบรมความเชื่อ ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างประชากรพระเจ้า และเป็นการประกาศข่าวดีแบบใหม่ (เรื่องการสวดสายประคำ ข้อ ๓) มิติของชีวิตในองค์พระคริสตเจ้าแบบใหม่นี้ และของการผูกมัดตัวเองของบรรดาธรรมทูต เรียกร้องให้เราคริสตชนได้รำลึกถึงถ้อยคำในพระสมณสาสน์ เริ่มต้นสหัสวรรษใหม่ (Novo Millennio Ineunte) ของสมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ ๒ ที่ว่า ให้เราเริ่มต้นใหม่จากพระคริสตเจ้า (ข้อ ๒๙) อันสอดคล้องกับพระบัญชาขององค์พระเยซูเ
จ้าที่มีต่อบรรดาศิษย์ของพระองค์ว่า จงออกไปและประกาศข่าวดี
(มก ๑๖: ๑๕) เพื่อที่จะ เริ่มต้นใหม่จากองค์พระคริสตเจ้า สมเด็จพร
ะสันตะปาปาได้เน้นย้ำว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้อง เรียนให้รู้จักพระคริสตเจ้าจากพระนางมารีย์ เพราะว่าในบรรดาสิ่งสร้างแล้ว ไม่มีผู้ใดที่จะรู้จักพระคริสตเจ้าได้ดีกว่าพระแม่มารีย์ (เรื่องการสวดสายประคำข้อ ๑๔) ด้วยคำตอบรับ ขอให้เป็นไป (fiat) ของพระนางมารีย์โดยได้ประกาศว่าพระนางเป็น ผู้รับใช้ของพระเจ้า (ลก ๑: ๓๘) พระนางมารีย์ได้กลายเป็นบุคคลแรกที่ได้รับการไถ่กู้จากพระบุตรของพระนาง และเป็นบุคคลแรกที่ได้วิงวอนขอความช่วยเหลือที่จำเป็นจากองค์พระบุตร คือความจำเป็นในเรื่องของวัตถุปัจจัยของสังคมสำหรับเพื่อน
พี่น้องชายหญิงของพระนางในงานสมรสที่หมู่บ้านคานา อันเป็นสถานที่ที่พระเยซูเจ้าได้ทรงกระทำอัศจรรย์ครั้งแรก
ซึ่งทำให้เห็นชัดถึงบทบาทในการเป็นผู้สอนของพระนางที่บอกคนใช้ให้ทำตามพระบัญชาของพระเยซูเจ้า (เทียบ ยน ๒: ๕) เราคงคาดได้ว่าหลังจากที่พระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์แล้ว พระนางยังคงกระทำเช่นเดียวกันสำหรับบรรดาศิษย์ เมื่อพระนางได้ร่วมสวดภาวนาพร้อมกับพวกเขา ขณะที่กำลังรอคอยการเสด็จลงมาขององค์พระจิตเจ้า และทรงให้กำลังใจพวกเขาในพันธกิจครั้งแรก (เรื่องการสวดสายประคำ ข้อ ๑๔) จากขณะนั้นเป็นต้นมา งานธรรมทูตของพระศาสนจักรได้เริ่มขึ้นแล้ว เช่นเดียวกับการไถ่กู้มนุษย์ชาติโดยผ่านทางชีวิต แบบอย่าง การเทศน์
สอน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า พระผู้ไถ่กู้แต่พระองค์เดียวของมนุษย์ชาติ
ในสุนทรพจน์ของสมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ ๒ เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๑๙๗๘ พระองค์ซึ่งเพิ่งได้
รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปาใหม่ๆนั้น ได้ทรงตรัสว่าการสวดสายประคำเป็นประหนึ่งการภาวนา และอรรถาธิบายบทสุดท้ายของพระธรรมนูญด้านพระธรรมที่กล่าวถึง พระศาสนจักร (Lumen Gentium) ของ
สภาสังคายนาวาติกันที่ ๒ และพระธรรมนูญนี้กล่าวถึงบทบาทพิเศษของพระมารดาของพระเจ้า ในพระธรรมล้ำลึกของพระคริสตเจ้าและพระศาสนจักร ขณะที่เราคริสตชนสวดบทวันทามารีอาอันเป็นบทภาวนาหลักของการสวดสายประคำ เหตุการณ์ที่สำคัญๆแ
ห่งชีวิตขององค์พระเยซูเจ้า ก็จะค่อยๆผ่านสายตาแห่งจิตวิญญาณของเรา ทั้งจะค่อยๆสร้างสรรค์ชีวิตคริสตชนแต่ละคน แต่ละครอบครัว แต่ละชาติ ซึ่งรวมกันเป็นชีวิตของพระศาสนจักรและของมวลมนุษย์ชาติ ซึ่งสามารถสรุปได้ว่าการสวดสายประคำที่เรียบง่ายนี้ สอดคล้องกับชีวิตมนุษย์เสมือนว่าเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน (เทียบ เรื่องการสวดสายประคำ ข้อ ๒)
ย้อนหลังกลับไปเมื่อ ๒๕ ปีที่แล้ว สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า ใครๆ ที่เพ่งพินิจพระคริสตเจ้าในช่วงเวลาต่างๆแห่งพระชนมชีพของพระองค์ จะต้องพบความจริงเกี่ยวกับมนุษย์ในพระองค์ (เรื่องการสวดสายประคำ ข้อ ๒๕)
ซึ่งทำให้นึกถึงถ้อยคำของพระธรรมนูญว่าด้วย พระศาสนจักรในโลกสมัยนี้ (Gaudium et Spes) ข้อ ๒๒
ที่กล่าวว่า พระธรรมล้ำลึกของมนุษย์ปรากฏอย่างชัดเจนในพระธรรมล้ำลึกของพระวจนาตถ์ที่ทรงรับสภาพมนุษย์เท่านั้น และพระองค์ยังได้ทรงตั้งข้อสังเกตไว้ว่า การสวดสายประคำจะช่วยเราคริสตชนให้เปิดหนทางไปสู่แสงสว่างที่ว่านั้น
โดยการเดินตามรอยขององค์พระคริสตเจ้า วิถีทางของมนุษย์ก็จะได้รับการทบทวนขึ้นมาใหม่ ทั้งจะได้รับการเผยแสดงและการไถ่กู้อีกด้วย และภาพลักษณ์ของมนุษย์ที่แท้จริงก็จะปรากฏอ
ยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเขา
อันจะทำให้พวกเขาเข้าใจถึงความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิต
ความจริงดั้งเดิมของการเป็นครอบครัว
แสงสว่างที่จะนำพวกเขาเข้าสู่พระอาณาจักรพระเจ้า
ความหมายของการต้องทนทุกข์ยากลำบากที่น
ำความรอดพ้นมาให้
และเป้าหมายที่เรามนุษย์แต่ละคนถูกเรียกมา
นี่แหละทีเป็นมานุษยวิทยาแบบคริสตชนซ
ึ่งจะกลายเป็นการประกาศพระวรสารอย่างดีสำหรับโลกในยุคโลกาภิวัต สำหรับวัฒนธรรมและสำหรับศาสนาที่หลากหลายแตกต่างกันออกไป
ในพระธรรมล้ำลึกที่หลากหลายในการสวดสายประคำ คือพระธรรมล้ำลึกน่ายินดี พระธรรมล้ำลึกแห่งแสงส
ว่าง พระธรรมล้ำลึกพระทรมาน และพระธรรมล้ำลึกพระสิริรุ่งโรจน์ขององค์พระคริสตเจ้าพร้อมๆกับพระนางมารีย์ จะช่วยให้เรารำลึกถึงสิ่งที่เครื่องหมายแห่งพระอาณาจักรซึ่งขณะนี้ได้ปรากฏอยู่บนโลกนี้แล้วว่าเป็นอะไร รวมท
ั้งจะเป็นผลลัพธ์ในอันที่จะกำหนดวิถีทางของคริสตชนแต่ละคนด้วย
องค์สมเด็จพระสันตะปาปา ได้เริ่มการรำพึงไตร่ตรองของพระองค์จากความชื่นชมยินดีของ พระธรรมล้ำลึกขององค์กุมารน้อยที่เบธเลเฮม ซึ่งจะต้องปลุกเร้าคริสตชนทุกคนให้อยากต้อนรับ ปกป้อง และสนับสนุนการมีชีวิต และให้รู้จักช่วยกันแบ่งเบาภาระของเด็กๆทั่วโล
กที่กำลังทนทุกข์ยากลำบาก
ในพระธรรมล้ำลึกแห่งความสว่าง ซึ่งจะช่วยเปิดประตูและวิถีทางของการประกาศพระวรสารของพระคริสตเจ้าผู้เผยแสดงพระองค์ โดยบันดาลให้เราได้ทราบถึงหน้าที่ในการเป็นประจักษ์พยานถึง บุญลาภ ของพระองค์ในชีวิตประจำวันของเราคริสตชนแต่ละคน
ใน การเพ่งพินิจดูการทนทุกข์ทรมานขององค์พระคริสตเจ้า ผู้กำลังแบกไม้กางเขน และสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน จะต้องทำให้เราคริสตชนรู้สึกเหมือนกับซีโมน ชาวไซรีน คือจะต้องช่วยกันบรรเทาทุกข์ของเพื่อนพี่น้องชายหญิงของเรา
และที่สุด เมื่อเราเพ่งพินิจดูพระสิริรุ่งโรจน์ขององค์พระคริสตเจ้า ผู้ได้ทรงกลับคืนพระชนมชีพและของพระ
นางมารีย์ ราชินีแห่งสวรรค์ ก็คงอดไม่ได้ที่จะต้องใฝ่ฝันถึงการฟื้นฟูโลกของเราให้สวยสดงดงามยิ่งขึ้น ให้มีความยุติธรรมมากขึ้น และให้สอดคล้องกับแผนการของพระเจ้ามากยิ่งขึ้นด้วย
การสวดสายประคำ พร้อมๆกับการเพ่งพินิจดูธรรมล้ำลึกอันหลากหลายขององค์พระคริสตเจ้าและของพระนา
งมารีย์ จะเป็นคำตอบอย่างดีสำหรับผู้ที่กำลังแสวงหาความครบครันของชีวิตคริสตชนว่าจะมีแนวทางอย่างไรบ้าง เพราะการสวดสายประคำเป็น การช่วยให้รอดพ้น และ เป็นข่าวดี ที่ประกาศให้โลกได้รับรู้โดยผ่านทางพันธกิจของ พระศาสนจักรบนโลกนี้ที่ต้องเป็นธรรมทูตโดยธรรมชาติ (AG 2) และโดยการเพ่งพินิจที่องค์พระคริสตเจ้า การสวดสายประคำก็จะทำให้เราได้กลายเป็น ผู้สร้างสันติ ในโลกอีกด้วย
เพราะแทนที่จะพยายามหนีจากปัญหาต่างๆของโลก การสวดสา
ยประคำจะผลักดันเราให้มองปัญหาต่างๆเหล่านั้นด้วยความรับผิดชอบและมีใจกว้าง และช่วยเราให้ได้รับพละกำลังที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาเหล่านั้นฆด้วยความมั่นใจว่าพระเจ้าจะทรงช่วยเหลือเราอย่างแน่นอน เราจึงมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นพยานถึง ความรักซึ่งรวมทุกสิ่งไว้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์ (เทียบ คส 3:14) ในทุกสถานการณ์ (เรื่องการสวดสายประคำ
ข้อ ๔๐)
|