ในพระศาสนจักรยุคก่อนๆ เช่น
ในศาสนจักรที่เมืองราแวนนาและที่เมืองมิลานในประเทศอิตาลี ก่อนวันฉลองพระคริสตสมภพเล็กน้อยจะมีการฉลองธรรมล้ำลึกแห่งการเสด็จมารับบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระบุตรพระเจ้า แต่ต่อมาภายหลังพระศาสนจักรได้เลื่อนมาเป็นวันที่ 25
มีนาคม คือ 9 เดือนก่อนวันฉลองพระคริสตสมภพ
พระผู้เป็นเจ้ามิได้เสด็จมาในโลกนี้ โดยถูกบังคับหรือเพราะความจำเป็น พระองค์ทรงประสงค์ได้คำตอ
บรับจากพระนางมารีย์ เพื่อว่าพันธสัญญาที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้กับบรรพบุรุษ จะได้สำเร็จบริบูรณ์ไป ประชากรแห่งพระสัญญาอยู่ในตัวพระนาง ไม่ว่าจะเป็นประชากรเก่า (ชนชาวอิสเราแอล) หรือประชากรใหม่ (พระ
ศาสนจักร) ก็ตาม เพราะว่า พระเป็นเจ้าอยู่กับพระนาง ซึ่งหมายความว่า พระองค์ทรงเป็นพระผู้เป็นเจ้าของเ
ราและเราเป็นประชากรของพระองค์
วจนพิธีกรรมของวันนี้ซึ่งเป็นวันฉลองพระเยซูคริสตเจ้า ได้ช่วยหันความสนใจของเราไปสู่ธรรม ล้ำลึก
ปัสกา การตอบรับน้ำพระทัยของพระผู้เป็นเจ้าของพระบุตรนี้ ได้ทำให้พระองค์เสด็จเข้ามาสู่โลกนี้ ตามที่ได้จารึกไว้ในพระคัมภีร์ว่า นี่แน่ะ ลูกมาเพื่อทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ (สดด 39; ฮบ 10: 4-10 ) และพฤติกรรมประการนี้ขององค์พระบุตรได้รับคำตอบจากพระบิดาคือ หลังจากที่พระบุตรได้ทรงรับทรมานและตาย
บนไม้กางเขน อันเป็นเครื่องบูชาถวายแด่พระบิดาเจ้า พระบิดาเจ้าก็ได้ทรงประทับตราการช่วยให้รอดพ้นสำหรับมนุษย์ทุกคน โดยผ่านทางพระศาสนจักรด้วยการเสด็จกลับคืนพระชนมชีพของพระบุตรในพระจิต
การเสด็จมารับบังเกิดเป็นมนุษย์ ยังเป็นธรรมล้ำลึกของการร่วมมือในการช่วยให้รอดพ้น ที่เปรียบเสมือนของป
ระทานจากพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งพระนางมารีย์มีส่วนรับผิดชอบอยู่ด้วย และได้เป็นที่เปิดเผยแก่เราว่าพระผู้เป็นเจ้า เพื่อที่จะช่วยเรามนุษย์ให้รอดพ้นนั้นได้ทรงเลือกเอาวิธีการที่จะต้องผ่านทางมนุษย์ และโดยความเต็มใจของมนุษย์เอง
หนังสือพระคัมภีร์ที่มีการเล่าถึงเรื่องพระนางมารีย์รับสารฯนี้ จะพบได้ในพระวรสารของนักบุญลูกา บทที่ 1 ข้อ
ที่ 26-38
เมื่อนางเอลีซาเบธตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว พระเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์กาเบรียลมายังเมืองหนึ่งในแคว้นกาลิลี
ชื่อเมืองนาซาเร็ธ มาพบหญิงพรหมจารีคนหนึ่งซึ่งหมั้นอยู่กับชายชื่อโยเซฟ ในราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิด หญิงพรหมจารีผู้นั้นชื่อมารีย์ ทูตสวรรค์เข้าไปในบ้านกล่าวกับพระนางว่า จงยินดีเถิด ท่านผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน พระเจ้าสถิตอยู่กับท่าน เมื่อทรงได้ยินถ้อยคำนี้ พระนางมารีย์ทรงวุ่นวายพระทัยมาก และทรงถามว่า คำทักทายนี้หมายความว่ากระไร แต่ทูต
สวรรค์กล่าวแก่พระนางว่า มารีย์ อย่ากลัวเลย ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน ท่านจะตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง ท่านจะต
ั้งชื่อเขาว่าเยซู เขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ และพระเจ้าผู้สูงสุดจะทรงเรียกเขาเป็นบุตรของพระองค์ พระเจ้าจะประทานพระที่นั่งของกษัตริ
ย์ดาวิดบรรพบุรุษให้แก่เขา เขาจะปกครองวงศ์ตระกูลของยาโคบตลอดไป และพระอาณาจักรของเขาจะไม่สิ้นสุดเลย พระนางมารีย์จึงทรงถามทูตสวรรค์ว่า เหตุการณ์นี้จะเป็นไปได้ อย่างไร เพราะข้าพเจ้าตั้งใจจะเป็นพรหมจารี ทูตสวร
รค์ตอบว่า พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่าน และพระอานุภาพของพระผู้สูงสุดจะแผ่เงาปกคลุมท่าน เพราะฉะนั้น บุตรที่เกิดมาจะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และจะรับนามว่าบุตรของพระเจ้า ดูซิ เอลีซาเบธ ญาติของ
ท่าน ทั้งๆ ที่ชราแล้ว ก็ยังตั้งครรภ์บุตรชาย ใครๆ คิดว่านางเป็นหมัน แต่นางก็ตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว เพราะไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าจะทรงกระทำไม่ได้ พระนางมารีย์จึงตรัสว่า ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด แล้วทูตสวรรค์ก็จากพระนางไป
...และพระวจนาตถ์ได้ทรงรับเอากายและประทับอยู่ท่ามกลางเรา... และเราได้แลเห็นพระเกียรติมง
คลของพระองค์ (ยน 1: 14) การที่เรากล่าวซ้ำอยู่เสมอๆ ในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณว่า พวกท่านจงทำสิ่งนี้เป็นการระลึกถึงเรา พระเยซูคริสตเจ้าทรงต้องการสอนเราว่า เราต้องรู้จักให้เนื้อและเลือด หร
ือแม้แต่ชีวิตเราแก่เพื่อนพี่น้องของเราด้วย ขอให้เราทุกๆ คน จงช่วยกันทำให้การช่วยให้รอดพ้นของพระผู้เป็นเจ้า ได้เป็นที่เชื่อถือได้ในการดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของพระนางพรหมจารีมารีย์ ที่ตอบรับเทวทูตว่า จงเป็นไปแก่ข้าพเจ้าตามวาจาของท่าน ในการทำหน้าที่แม้ที่เล็กน้อยและที่ต่ำต้อยที่สุด
ในฐานะที่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง และเป็นคริสตชนคนหนึ่งอย่างดีด้วยเถิด
|