หน้าหลักเกี่ยวกับคณะฯโรงเรียนของคณะฯติดต่อคณะฯ

          เวลาที่คริสตชนคิดถึงหรือพูดถึงนักบุญโธมัส ก็มักจะคิดถึงท่านว่าเป็น “คนขี้สงสัย” แต่ถึงกระนั้นท่านสมควรจะได้รับความเคารพในเรื่องของความเชื่อของท่าน โธมัสเป็น “คนขี้สงสัย” ก็จริง แต่ว่าความสงสัยของท่านก็มีเป้าหมาย เพราะท่านต้องการที่จะรู้ความจริง นักบุญโธมัสมิใช่เป็นคนที่ขี้สงสัยตะพึดตะพือไม่ยอมฟังเหตุผล ท่านพร้อมที่จะเชื่อเมื่อได้รับการชี้แจงอย่างมีเหตุผล ท่านได้แสดงออกถึงความสงสัยของท่านอย่างเต็มที่และท่านก็ได้ให้คำตอบอย่างดีที่สุดด้วย การสงสัยของท่านเป็นวิธีการในการหาคำตอบเท่านั้น มิใช่เป็นการใช้ชีวิตของท่าน

          นิสัยของนักบุญโธมัสมีความเสถียร นั่นหมายความว่าท่านซื่อสัตย์ต่อบุคคลหรือสิ่งท ี่ท่านรู้จัก เช่นตัวอย่างที่เมื่อชีวิตขององค์พระเยซูเจ้าอยู่ในอันตราย ก็เป็นท่านที่กล้าพูดว่า “พวกเราจงไปตายพร้อมกับพระองค์เถิด” (ยน 11: 16) เพราะท่านมิได้ลังเลที่จะติดตามพระอาจารย์

          เราไม่รู้ว่าทำไมนักบุญโธมัสจึงไม่ได้อยู่เวลาที่พระเยซูเจ้าได้ประจักษ์มาหาพวกอัคร
สาวกในครั้งแรกหลังจากที่พระองค์ได้เสด็จกลับคืนพระชนมชีพแล้ว แต่ท่านก็รู้สึกว่าไม่พร้อมที่จะเชื่อในการเป็นประจักษ์พยานถึงการเสด็จกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้าของเพื่อนๆสาวกทั้งสิบท่าน

          อย่างไรก็ตาม การสงสัยนั้นช่วยส่งเสริมให้มีการ “คิดใหม่” เป้าหมายของการสงสัยคือการช่วยลับจิตใจให้แหลมคมขึ้น มากกว่าที่จะทำให้เปลี่ยนใจ การสงสัยสามารถถูกใช้เพื่อที่จะตั้งคำถาม หาคำตอบและช่วยผลักดันให้ทำการตัดสินใจ แต่ว่าการสงสัยจะต้องไม่ใช่เป็นเงื่อนไขที่จะคงอยู่กับคนเราตลอดไป การสง สัยเป็นเหมือนการยกเท้าขึ้นเพื่อที่จะเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวหรือถอยหลังไปหนึ่งก้าว และจะไม่มีการเคลื่อนไหวจนกว่าเท้าจะถูกยกลงเหยียบพื้น

          เมื่อเรามีประสบการณ์ของความสงสัย ก็ขอให้เราได้รับกำลังใจจากนักบุญโธมัส  ท่านไม่ได้อยู่ในความสงสัยเป็นเวลานาน  แต่ยอม
ให้พระเยซูเจ้านำท่านเข้าสู่ความเชื่อ
เราก็เช่นเดียวกัน ก็ควรจะต้องหาผู้เชื่อคนอื่นๆซึ่งเราจะสามารถแบ่งปันความสงสัยของเรากับพวกเขาได้ ความสงสัยที่เงียบๆไม่ยอมแบ่งปันให้กับเพื่อนพี่น้อง ก็มักจะหาคำตอบยากสำหรับชีวิตของตนเอง

           จุดแข็งและงานสัมฤทธิ์ผลของนักบุญโธมัส

  • เป็นอัครสาวกองค์หนึ่งในสิบสององค์ของพระเยซูเจ้า
  • เป็นผู้ที่มีความสงสัยอย่างรุนแรง แต่ก็เป็นผู้ที่มีความเชื่ออย่างล้นเหลือ
  • เป็นบุคคลที่มีความจงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่อพระอาจารย์

    จุดอ่อนและความผิดพลาดของนักบุญโธมัส
  • เช่นเดียวกับอัครสาวกท่านอื่นๆ นักบุญโธมัสก็ได้ละทิ้งพระเยซูเจ้าเวลาที่พระองค์ถูกจับกุม
  • ไม่ยอมเชื่อง่ายๆคำกล่าวอ้างของอัครสาวกท่านอื่นๆที่บอกว่าได้แลเห็นองค์พระเยซูเจ้า

    บทเรียนจากชีวิตของนักบุญโธมัส
  • พระเยซูเจ้ามิได้ปฏิเสธความสงสัยซึ่งเกิดขึ้นด้วยความบริสุทธิ์ใจและมุ่งไปสู่ความเชื่อ
  • การแสดงความสงสัยออกมาดังๆดีกว่าที่จะไม่เชื่ออย่างเงียบๆ

    พระวาจา ยน 20: 27, 28

          ...แล้วนั้นพระเยซูเจ้าได้ทรงตรัสกับโธมัสว่า “จงเอานิ้วมาที่นี่และดูมือของเราเถิด จงเอามือมาที่นี่ คลำที่สีข้างของเรา อย่าสงสัยอีกต่อไป แต่จงเชื่อเถิด” โธมัสทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าและพระเจ้าของข้าพเจ้า!”...

           ข้อสังเกตุ

          ความสงสัยและความเชื่อ เป็นเรื่องที่ไปด้วยกันได้ ยิ่งกว่านั้นอาจเป็นอะไรที่คอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน

          เพราะ ณ จุดเริ่มต้นของการเดินทางแห่งความเชื่อของเราแต่ละคน การแลเห็นหรือการมองดู ก็จะมีบทบาทอย่างมากๆ...เพราะ ณ จุดส ิ้นสุด สิ่งที่เราแลเห็นด้วยตาแห่งความเชื่อของเรา ก็จะให้ความสำคัญอย่างมากๆเลยทีเดียว...ตาแห่งความเชื่อจะทำให้เราสามารถมองข้ามเปลือกที่หุ้มห่ออยู่ข้างนอก

           นักบุญออกัสตินพูดไว้อย่างน่าฟังว่า “ความเชื่อศรัทธาคือเชื่อในสิ่งที่เรายังมองไม่เห็น...และรางวัลของความเชื่อศรัทธาคือเห็ นในสิ่งที่เราได้เชื่อ”

หน้าหลัก