4.ความเลื่อมใสศรัทธาต่อพระคริสตเจ้าผู้ทรงรับทรมาน
ระหว่างศตวรรษที่ 11-13 เกิดการเคลื่อนไหวในกลุ่มคริสตชน ประชาชนเริ่มแสดงความเลื่อมใสศรัทธ
าแบบใหม่ คือตั้งแต่ศตวรรษแรก คริสตชนเพ่งพินิจภาวนาพระคริสตเจ้าผู้ทรงสิริรุ่งโรจน์แม้ในขณะที่ทรงถูกตรึงบนไม้กางเขน แต่ในศตวรรษนี้ เขามาเพ่งพินิจภาวนาพระคริสตเจ้าในสภาพต่ำต้อยและทนทุกข์ทรมานของม
นุษย์ ในสมัยก่อน เขามักจะวาดภาพหรือแกะสลักรูปของพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน ทรงสวมอาภรณ์ของมหาสมณะ แต่ในสมัยนี้ มักจะวาดภาพหรือแกะสลักรูปของพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน ปราศจากอาภรณ์ มีพระโลหิ
ตไหลเปื้อนทั่วพระวรกาย คริสตชนนิยมเพ่งพินิจพระเยซูเจ้าในฐานะที่ทรงเป็นมนุษย์มากกว่าในฐานะที่เป็นพระเจ้า เช่น พระองค์ประสูติในถ้ำที่เบธเลเฮม ทรงรับทรมานอย่างสาหัส พระมารดาทรงทุกข์ทรมานยืนอยู่เชิงไม้
กางเขน และประทับนั่งรับพระศพของพระเยซูเจ้าไว้ในอ้อมพระหัตถ์
ความเลื่อมใสศรัทธาต่อพระเยซูเจ้าผู้ทรงถูกตรึงบนไม้กางเขน แทนที่จะพิจารณาธรรมล้ำลึกแห่งความ
รอดพ้น กลับเพ่งพินิจรายละเอียดต่าง ๆ ของการรับทรมาน เช่น ไม้กางเขน ตะปู รอยแผลศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้า พระโลหิต ด้านข้างพระวรกายที่ถูกแทง และพระหฤทัยที่เปิดออกเพราะความรัก ในที่สุด คริสตชนมองพระหฤทัย
ในแง่ที่เป็นสัญลักษณ์และบ่อเกิดของธรรมล้ำลึกทั้งหมดเรื่องพระคริสตเจ้า
|