หน้าหลักเกี่ยวกับคณะฯโรงเรียนของคณะฯติดต่อคณะฯ

 

 

ภาพ/ข่าว:

ซิสเตอร์พระหฤทัย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

          วันที่ 15 เมษายน 2557 เวลา 10.00 น. สมาชิกคณะพระหฤทัยฯ ได้ร่วมไว้อาลัยในพิธีปลงศพ โทมัส เซี่ยมกุ่ย แซ่ฮ้อ บิดาของซิสเตอร์ลักษณาวดี วงศ์วิไลวารินทร์ ณ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลำไทร โดยมีคุณพ่อวุฒิเลิศ แห่ล้อม อุปสังฆราชอัครสังฆมณฑลกรุงเทพ เป็นประธานในพิธี

ประวัติ

โทมัส เซี่ยมกุ่ย แซ่ฮ้อ

บิดาของซิสเตอร์ลักษณาวดี วงศ์วิไลวารินทร์

 

          โทมัส เซี่ยมกุ่ย แซ่ฮ้อ เกิดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2474 เป็นบุตรของยวง กิมเต็ง แซ่ฮ้อ กับอันนา จู แซ่เอี้ยว มีพี่น้องทั้งหมด 9 คน ท่านเป็นบุตรชายคนที่ 5 ที่เติบโตในครอบครัวคาทอลิก และเป็นสัตบุรุษวัดพระวิสุทธิวงส์ ลำไทร จ. ปทุมธานี

          โทมัส เซี่ยมกุ่ย แซ่ฮ้อ สมรสกับมารีอา มักดาเลนา ทัศนีย์ วงษ์วิไลวารินทร์ มีบุตรธิดารวมกันทั้งสิ้น 13 คน ทั้งสองคนร่วมสร้างครอบครัวด้วยกันมาจากศูนย์ เลี้ยงดูลูกๆทุกคนด้วยความรัก ความเอาใจใส่ และอดทนทำงานหนักมาโดยตลอด

          นอกจากการใช้ชีวิตอย่างสุจริต หาเลี้ยงชีพด้วยการเปิดร้านขายยาแล้ว โทมัส เซี่ยมกุ่ย แซ่ฮ้อยังเป็นคริสตชนที่มีความเชื่อและความศรัทธาเป็นอย่างสูง ท่านคอยเป็นแบบอย่างให้กับลูกๆในเรื่องความรักที่มีต่อพระเจ้า ท่านมีความวางใจในพระเป็นเจ้ามาโดยตลอด ไม่ว่าจะมีความทุกข์ยากลำบากในการดำเนินชีวิต หรือมีปัญหาต่างๆผ่านเข้ามามากมายแค่ไหน ท่านก็ยังเชื่อว่า ในการทดลองของพระผู้เป็นเจ้านั้น มีความรักและพระเมตตาของพระองค์อยู่เสมอ ท่านเคยพูดให้ลูกๆฟังเสมอว่า พระไม่เคยทอดทิ้ง พระไม่เคยปราศจากความเมตตา ท่านรับรู้ได้ถึงความช่วยเหลือที่พระมอบให้มาตลอดชีวิต

          และด้วยความรักที่ท่านมีต่อพระเป็นเจ้านี้เอง ท่านจึงมีความเต็มใจอย่างสุดที่จะมอบบุตรสาวของท่านให้เป็นข้ารับใช้ของพระองค์ บุตรสาวผู้นั้นคือซิสเตอร์เทเรซา ลักษณาวดี วงษ์วิไลวารินทร์ คณะภคินีพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯ

          โทมัส เซี่ยมกุ่ย แซ่ฮ้อเริ่มมีปัญหาสุขภาพหัวใจเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว นั่นทำให้ตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมาท่านต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจถึงสามครั้ง และต้องฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจเอาไว้ที่หน้าอกของท่าน เพราะหัวใจของท่านนั้นทำงานได้แค่เพียง 20% เท่านั้น ก่อนที่จะลดลงเหลือแค่เพียง 10% ในเวลาต่อมา

          แต่แม้ท่านจะมีปัญหาทางสุขภาพ และต้องเจอกับความทุกข์ยากมากมายแค่ไหน ท่านยังคงใช้ชีวิตเป็นปกติ ยังคงยิ้ม หัวเราะ ทำงาน มีความสุข และยังคงศรัทธาในความรักที่พระเป็นเจ้ามอบให้เสมอ กล่าวได้ว่า แม้จะต้องเผชิญกับโรคร้าย ศรัทธาของท่านก็ไม่เคยลดลงเลย

          ด้วยเหตุนี้ เมื่อเวลาสุดท้ายของท่านมาถึง พระเป็นเจ้าจึงทรงพระกรุณารับท่านไว้ในอ้อมพระหัตถ์อย่างอ่อนโยน ในวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2557 ท่านจากโลกนี้ไปอย่างสงบ ปราศจากความทุกข์ทรมาน ได้มีโอกาสสั่งเสียลูกหลานอย่างพร้อมหน้า และไม่มีสิ่งใดที่ติดค้าง สิริรวมอายุของท่านได้ 83 ปี